LG Optimus 4X HD แอนดรอยที่มาพร้อม Quardcore จากแอลจี ตอนนี้ผมได้เครื่องมาทดสอบแล้ว เรา ลองมาดูกันว่าสำหรับ Optimus 4X มันจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ส่วนราคาเปิดตัวของรุ่นนี้อยู่ที่ 18900 บาท ใครสนใจก้เตรียมตัวไปสอยได้ที่งาน Thailand International Mobile Show 2012 ได้เลย (ของแถมเพียบ) ดูเหมือนเทรนด์สีขาวจะมาแรง ตัวที่ได้มาทดสอบก้เป็นสีขาว ซึ่งสวยและดูเรียบหรูตามแบบฉบับเครื่อง สีขาว สำหรับตัวเครื่องครั้งแรกที่ได้จับ ผมรู้สึกว่าบางและเบา ส่วนที่เป็รสีขาวด้านหน้าอยู่ภายใต้กระจก ดังนั้นไม่ต้องกลัวสีขาวจะเหลืองส่วนฝาหลังเป็นพลาสติกแต่ก้ยังมีลวดลายคล้ายๆกับแนว PRADA อยู่เหมือนกัน ก่อนไปดูรายละเอียดรอบๆตัวเครื่องมาอัพเดต Spec ของ Optimus 4X HD กันก่อน # มาพร้อมระบบแอนดรอย Android OS, v4.0 (Ice Cream Sandwich) # ความเร็วของซีพียูอยู่ที่ Quad-core 1.5 GHz Cortex-A9 ใช้ชิพของ Nvidia Tegra 3 , GPU ULP GeForce # ขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 132.4 x 68.1 x 8.9 mm และมีนำ้หนัก 133 g # หน้าจอเป็นแบบ True HD-IPS LCD capacitive touchscreen, 16M colors # ขนาดของหน้าจออยู่ที่ 4.7 inches (~312 ppi pixel density) ความละเอียดหน้าจอ 720 x 1280 pixels, # กระจกหน้ากันรออยด้วย Corning Gorilla Glass # มาพร้อม UI Optimus UI v3.0 # หน่วยความจำในเครื่อง 16 GB storage (12 GB user available), 1 GB RAM # กล้องหลังความละเอียด 8 MP, 3264x2448 pixels มาพร้อม autofocus และ LED flash # กล้องหน้าความละเอียด 1.3 MP # แบตเตอรี่ขนาด Li-Ion 2140 mAh ด้านหน้าของตัวเครื่องจะดูเรียบๆสวยงาม เราแทบจะมองไม่เห็นอะไร ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ของหน้าจอ ที่ใหญ่จุใจด้วยขนาด 4.7 นิ้ว ด้านบนจะเห็นโลโก้ของ LG เท่านั้น ใกล้ๆในส่วนด้านบนก้จะเห็นตำแหน่ง ของ กล้องหน้า ลำโพงหน้าและเซ็นเซ่อร์ การมาพร้อมกับ ICS ทำให้ Optimus 4X ดูน่าใช้งานมากขึ้นถึงแม้จะใหม่สำหรับใครหลายๆคนแต่ก้ง่ายที่จะ เรียนรู้ หน้าจอแบบ True HD-IPS LCD ให้สีสันที่สว่างและสมจริง ผมทดลองเปิดวีดีโอและภาพการให้ สีสันที่ไม่จัดจ้านทำให้ดูแล้วสบายตา แต่เรื่องหน้าจอก้คงแล้วแต่คนชอบละครับ แต่ถ้าชอบแนวธรรมชาติ ก้คงจะถูกใจเจ้า 4X ด้านล่างสุดเลยจะเป็นช่องเสียบสาย USB สำหรับปุ่มทำงานบน Optimus 4X จะใช้งานแบบปุ่มสัมผัสทั้ง หมด ประกอบไปด้วยปุ่ม Back , Home และ Option การใช้งานสัมผัสทำงานได้รวดเร็วดีเหมือนกัน ตัวเครื่องที่เป็นสีขาว (สีอื่นอาจจะแตกต่างไป) ด้านหน้าจะเป็นกระจกทับอยู่ด้านบนซึ่งเรามั่นใจได้ว่า มันคงจะไม่สร้างความเหลืองให้กับตัวมือถือได้ รอบๆตัวเครื่องจะมีแถบสีเงินสองเส้นวิ่งวนไปรอบๆทำ ให้ตัวเครื่องดูแล้วสวยไปอีกแบบ ส่วนตรงกลางระหว่างแถบเงินๆก้จะเป็นขอบสีขาวเช่นกัน กล้องหน้าของ Optimus 4X ให้ความละเอียดมา 1.3 ล้านก้ถือว่าเป็นระดับมาตรฐานที่กล้องระดับนี้ให้มา (หลายๆคนบอกอยากได้ 2 ล้านเหมือนกัน) ด้านขวาของรุ่นนี้เราจะไม่เห็นปุ่มการใช้งานใดๆ แต่จากภาพจะเห็นชัดขึ้นมาหน่อยของการออแบบด้าน ข้างของตัวเครื่องในรุ่นสีขาว จะมีแถบสีเงินอยู่รอบแกนสีขาวอีกชั้นนึง ด้านบนของ Optimus 4X HD จะมองเห็นปุ่ม Power ที่อยู๋ตรงมุมขวา และถัดมาในตำแหน่งด้านซ้ายก้จะ เป็นช่องเสียบหูฟังนั่นเอง อีกมุมนึงนะครับ ถึงแม้จะแปลกตาไปสักนิดแต่โดยรวมแล้วก้สวยดี คราวนี้เรามาดูด้านซ้ายของตัวเครื่องกันบ้าง จะมีแค่ปุ่ม เพิ่มและลดเสียงเท่านั้น ด้านล่างของตัวเครื่องกับช่องต่อ USB ด้านหลังของ Optimus 4X ถึงแม้จะเป็นสีขาวแจ่ก้มีลายนิดๆจับแล้วให้ความรู้สึกติดมือเหมือนกัน โดยรวม ฝาหลังแบบนี้ยังคงทำให้คิดถึงตระกูล L Series หรือ PRADA จากแอลจี ฝาหลังเป็นพลาสติกที่เหนียวและ เบา ด้านบนจะเป็นตำแหน่งของกล้องหลังที่มาพร้อมแฟลช ถัดลงมาจะเป็นโลโก้ของแอลจี และด้านล่างสุดก้ คือช่องลำโพงนั่นเอง อีกมุมใกล้ๆสำหรับลายที่จะให้ได้บ่อยขึ้นในแอนดรอยจากแอลจียุคนี้ จะว่าไปก้สวยและมีข้อดีเรื่องติด มือนี่แหละครับ Optimus 4X HD ให้กล้องความละเอียดมากถึง 8 ล้านที่มาพร้อมออโต้โฟกัสและแฟลช จากเท่าที่ทดลอง ถ่ายภาพผมว่ารุ่นนี้มีการพัฒนาที่เห็นได้ชัด ใครเคยไม่ชอบกล้องของ LG ในสมัย Optimus 2X ก้คงจะต้อง ลืมไปได้เลยเพราะรุ่นนี้ทำมาดีมาก ลูกเล่นของกล้องก้ให้มาเยอะเช่นกัน คุณภาพของภาพที่ถ่ายผมว่าไม่แพ้ QuardCore อีกสองรุ่นแน่นอน แต่ถ้าถามว่าดีกว่ามั้ยคงต้องลองเทสกันเองนะครับ เพราะผมดันชอบภาพของ Xperia S มากกว่าบรรดา QuardCore ทุกตัว เรื่องความไวชัตเตอร์ (อารมณ์ประมาณ Zero Lag) ของแอลจีก้ทำได้นะครับ แค่กดแช่ไว้เหมือนกำลังยิง ปืนกลกันเลย เวลาจะแกะฝาหลังจะมีช่องไว้งัดอยู่ด้านล่างสุด ถึงแม้จะเป็นพลาสติกก้ไม่ต้องกลัวหักนะครับ วัสดุฝาหลัง เหนียวพอตัว อีกสักมุมหลังจากงัดฝาหลังออกมา ด้านในก้จะเจอแบต ช่องใส่ซิมและ SD Card จากภาพจะเห็นได้ว่า หากเป็นรุ่นสีขาวมันขาวทั้งตัวจริงๆ สำหรับ Optimus 4X ให้หน่วยความจำในเครื่องมามากภึง 16 GB พร้อมกับแรม 1 GB และเรายังสามารถ ใส่ Micro SD เพิ่มเติมได้ด้วยเช่นกัน ดูเหมือนจะใส่ได้สูงสุด 32 GB ใครที่ไม่ชอบตัดซิม ไม่ชอบซิมเล็กๆ คงจะถูกใจเพราะรุ่นนี้ใช้งานแบบขนาดปกตินั่นเอง สำหรับซ้ายมือ ข้างๆก้คือช่องใส่ SD นะครับ ส่วนด้านบนในภาพมีคำว่า Not For Sale ก้คือห้ามเซลแมนเอาไปใช้ (ไม่ใช่ละ .. เป็นตัวเทสนะครับ มีผลเรื่อง Fw. และรายละเอียดเล็กๆด้านในที่รุ่นวางจำหน่ายจริงอาจจะทำ ได้ดีกว่า) __________________________________________________________________________________
|