ใครที่กำลังไม่แน่ใจอยู่ว่าจะใช้แอนดรอยด์โฟนดีไหม เพราะยังลังเลกับกระแสไอโฟน ลองอ่านเหตุผล รับรองว่า คุณจะรู้สึกเชื่อมั่นต่อการตัดสินใจของคุณมากขึ้น เพราะเหนือฟ้ายังมีฟ้า อุปส์...ดูเหมือนจะไร้สาระแล้ว ไปติดตามเรื่องราวของแอนดรอยด์โฟนกันต่อได้เลยครับ
แจ้งเตือนได้หลากหลายแอพพร้อมกัน (Multi-notification) ประเด็นที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์มักจะรู้สึกว่า ไอโฟนไม่ได้ตอบโจทย์การใช้งานพวกเขาอย่างสนิทใจนั่นก็คือ พื้นฐานการทำงานของระบบแจ้งเตือน (notification) เนื่องจากมันขึ้นอยู่กับการทำงานของระบบเดียวไม่ใช่แอพพลิเคชันทุกตัวที่ทำงานขณะนั้น ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณใช้ทวิตเตอร์ คุณจะสามารถทราบว่ามีการอัพเดตก็ต่อเมื่อเปิดแอพ Twitter บน iPhone เทานั้น ในขณะที่หากเป็นแอนดรอยด์ แอพต่างๆ จะสามารถเข้าถึงระบบแจ้งเตือน และสามารถรายงานให้คุณได้ทราบทั้งหมด โดย notification bar บนแอนดรอยด์โฟนจะสามารถเตือนคุณเมื่อมีวอยส์เมสเสจใหม่ อีเมล์ใหม่ ระบบแจ้งเตือนจากเฟซบุ๊ก จีเมล์ใหม่ ข้อความใหม่ และอื่นๆ อีกมากมายที่เข้ามาจากแอพฯต่างๆ เหล่านี้ได้ ซึ่งสะดวกกว่าไอโฟนมาก
การปรับแต่งการใช้งานเฉพาะบุคคลที่ทำได้ไม่สิ้นสุด (Personalization) คุณผู้อ่านอาจจะมองว่า เรื่องของการปรับแต่งหน้าตาอินเตอร์เฟซตลอดจนฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ บนสมาร์ทโฟนเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ความจริงแล้ว มันสำคัญมากนะครับ ซึ่งแอนดรอยด์โฟนจะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งมือถือให้มีหน้าตา และรูปแบบการใช้งานได้ตามที่ผู้ใช้ต้องการ เช่น หากคุณเป็นพวกคลั่นไคล้ Social Network คุณสามารถปรับแต่งหน้าจอหนึ่งสำหรับ Facebook อีกหน้าจอหนึ่งสำหรับ Twitter รวมถึงการทำหน้าจอสำหรับส่งข้อความโดยเฉพาะ และหน้าจอสำหรับ Flickr หรือถ้าคุณเป็นนักธุรกิจ คุณก็ยังสามารถสร้างหน้าจอสำหรับคอนแท็ค หรือรายชื่อผู้ติดต่อ ปฏิธินงาน จีเมล์ หรืออีเมล์ หน้าจอฟีดข่าวจาก RSS และอื่นๆ อีกมากมาย ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานของคุณ ซึ่งนอกจากจะสามารถปรับแต่งเดสก์ทอปได้ตามต้องการแล้ว คุณยังสามารถปรับแต่งคุณสมบัติการทำงานให้เหมากับสมาร์ทโฟนของคุณได้อีกด้วย เช่น การปรับแต่งการทำงานที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละรายชื่อผู้ติดต่อ ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนทั้งหน้าเดสก์ทอปขึ้นอยู่กับความพอใจของคุณ เรียกได้ว่า ปรับแต่งได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ แต่สำหรับไอโฟน คุณจะพบข้อจำกัดมากกว่าความยืดหยุ่น
หน้าร้านบริการแอพพลิเคชัน (Android Market, App Store) แม้ว่า แอปเปิ้ลจะมีแอพพลิเคชันรองรับการใชั้งานมากกว่า ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลายตามความต้องการ (ที่มีการทำงานแบบเดียวกันก็เยอะ) แต่แอพสำหรับแอนดรอยด์ก็สามารถทำงานได้ไม่แพ้กัน แถมยังมีโอกาสได้ดาวน์โหลดแอนดรอยด์แอพฯฟรี และมีประสิทธิภาพในการทำงาน ดีไม่ดีอาจจะเก่งกว่าแอพฯบนไอโฟนอีกด้วย และคุณผู้อ่านเชื่อ หรือไม่ว่า ปัจจุบันมีแอพพลิเคชันนับหมื่นตัวแล้วใน Android Market นอกจากจะมีแอพที่สามารถทำงานได้ไม่แพ้ไอโฟนแล้ว การติดตั้งแอพบนแอนดรอยด์โฟนยังง่ายกว่าบนไอโฟนอีกด้วย สำหรับแอพฟรี คุณไม่ต้องกังวลเรื่องเกียวกับการป้อนพาสเวิร์ดทุกครั้งที่คุณพยายามจะติดตั้งแอพใดๆ และคุณไม่ต้องลิงค์ไปยัง iTunes Store เพื่อซื้อแอพอีกต่อหนึ่ง ส่วนแอพพลิเคชันที่เปิดจำหน่ายใน Android Market คุณป้อนข้อมูลเพียงครั้งแรกครั้งเดียวเท่านั้น ง่ายดีไหมครับ
"กูเกิ้ล"ฝังใน (Google Integration) สำหรับการเปรียบเทียบคุณสมบัติข้อนี้อาจจะไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไร เนื่องจากแอนดรอยด์ได้รับการออกแบบให้ทำงานร่วมกับกูเกิ้ลเป็นหลัก แต่มันก็ทำออกมาได้ดีจนไม่อาจละเลยที่จะไม่พูดถึง หรือนำยกมาเปรียบเทียบได้ เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการค้นหาด้วยกูเกิ้ล แค่คลิกปุ่ม Search พิมพ์ข้อความที่ต้องการค้นหา กดปุ่มแล้วก็รอคำตอบ นอกจากนี้มันยังรองรับฟังก์ชัน และคุณสมบัติการทำงานอื่นๆ ของกูเกิ้ลได้อย่างครบถ้วน
โอเพ่นซอร์ส (Open Source) การที่แอนดรอยด์เป็นระบบเปิดแล้วมันจะดีกว่าไอโฟนอย่างไร? เหตุผลไม่ต่างจากระบบเปิด หรือ Open Source ทั่วไป เช่น การเป็นโอเอสระบบเปิดของลินุกซ์ ทำให้มันมีนักพัฒนามากมายที่พร้อมจะทำให้โอเอสแข็งแรง ตลอดจนแอพพลิเคชันต่างๆ ที่สำคัญนักพัฒนากลุ่มนี้มีความพร้อมที่จะพัฒนาแอพฯบนแอนดรอยด์ได้อีกด้วย ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าถึงซอร์สโค้ดของแอนดรอยด์ เพื่อปรับปรุงระบบการทำงานของมันให้ดีขึ้น แต่ประเด็นนี้ยังเป็นดาบสองคมอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การมีชุมชนที่ช่วยกันตรวจสอบดูแล หากพบจุดอ่อนของการทำงาน มันก็จะมีการแก้ไขปัญหาที่พบอย่างรวดเร็ว เทียบกับระบบปิดจะพบว่า มันมีข้อจำกัด และเรื่องของขั้นตอนที่ค่อนข้างล่าช้่าจนอาจไม่ทำการ แล้วคุณคิดว่าแอปเปิ้ลจะยอมให้ไอโฟนเป็นระบบเปิด หรือครับ? ฝันไปแล้ว