แอนดรอยตัวล่าสุดจาก oppo ที่หลายๆคนเข้าใจผิดกันเยอะว่าแบรนด์นี้คือแบรนด์เกาหลี จริงๆแล้ว OPPO เป็นแบรนด์จากจีนที่มีการตลาดและการลงทุนในมือถือโดยเฉพาะแอนดรอยแบบไม่ธรรมดา
วันก่อนผมได้รุ่นใหม่อย่าง OPPO Finder มาทดลองใช้งาน โดยรวมแล้วการออกแบบทำออกมาได้ดีมากๆ วัสดุก้มีความสวยงามและมีจุดเด่นชัดสุดในเรื่องความบางที่จัดว่าบางสุดๆรุ่นนึงเลย
นอกจากจุดขายที่ชัดเจนที่สุดที่มักจะได้ยินว่า OPPO Finder เป็นสมาร์ทโฟนบางที่สุดในโลก( 6.65 มม.) เรามาอัพเดตข้อมูลตัวเครื่องกันก่อนว่ามันมีจุดเด่นอะไรบ้าง สำหรับราคาวางจำหน่ายของรุ่นนี้อยู่ที่ 14900 บาท แต่ยังไม่ได้วางจำหน่ายแบบเป็นทางการ
Spec OPPO Finder
- มาพร้อมระบบแอนดรอย 4.0 ICS
- ความเร็วขอหน่วยประมวลผลอยู่ที่ 1.5GHz Dual Core
- หน่วยความจำในเครื่อง Ram 1 GB / Rom 16 GB
- ขนาดของตัวเครื่อง 125*66*6.65 (mm)
- หน้าจอมีขนาด 4.3 นิ้ว Super Amoled Screen
- กล้องหลังมีความละเอียด 8 ล้าน , กล้องหน้ามีความละเอียด 1.3 ล้าน
- รองรับเครือข่าย 3G : 850/900/2100
- มาพร้อมแบตเตอรี่ 1500 mAh
ตัวเครื่องถึงแม้จะบางแต่ก้ให้น้ำหนักที่จับแล้วกระชับมือ จากภาพแรกเราอาจจะได้อารมณ์แบบ Iphone อยู่บ้างแต่ก้ไม่เหมือนมากนัก และที่สำคัญงานประกอบต้องบอกว่าดีมาก และที่สำคัญตัวเครื่องใช้วัสดุจากอลูมิเนียมผสมกับพลาสติกทำให้ดูดีกว่าแบรนด์ดังๆหลายรุ่น
ด้านบนของตัวเครื่องเราจะมองเห็นลำโพงหน้าและกล้องหน้าที่มาพร้อมความละเอียด 1.3 ล้าน ดูเหมือนการมาพร้อมหน้าจอแบบ Super Amoled จะทำให้สีสันสดใสมากๆ ข้อดีอีกย่างที่ไม่ได้มีการนำยี่ห้อ OPPO มาติดในส่วนของด้านหน้าทำให้ตัวเครื่องถูกใจหลายๆคน
ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีปุ่มคำสั่ง Option , Home และ Back แบบสัมผัส จากภาพเราจะเห็นได้วาจะถูกล้อมรอบไปด้วยแถบสีเงินที่ทำด้วยอลูมิเนียม ทำให้ตัวเครื่องมีมิติและแอบหรูนิดๆในตัว ตัวเครื่องถึงแม้จะออกเป็นสี่เหลี่ยมแต่ก้มีความโค้งมนในตัวมันทำให้ดูเบาลงไม่เหลี่ยมจัดจนเกินไป
หน้าจอที่ให้มาด้วยขนาด 4.3 นิ้วเรียกได้ว่าใหญ่สะใจและพกพาได้สะดวกเช่นกัน หน้าจอให้สีสันที่สดใสเรียกได้ว่าถ้าชอบความสดแบบ Super Amoled ก้ถูกใจแน่นอน หน้าตาของเมนูได้อารมณ์แบบ ICS เพราะมาพร้อม 4.0 แล้วเช่นกัน
จากมุมด้านข้างยิ่งทำให้เห็นความบาง (6.5 mm) ด้านซ้ายมือของตัวเครื่องเราจะเห็นช่องใส่ซิม วิธีใส่จะมีช้องเล็กๆให้เรางัดขึ้นมา
อีกมุมสำหรับด้านซ้ายมือของตัวเครื่อง ที่จะเห็นขอบสีเงินวิ่งรอบตัวเครื่อง และกระจกหน้าที่ดูเว้าลงเข้ากับตัวเครื่องนิดๆ จากการทดลองขูดเบาๆผมว่าทนทานได้ดีระดับนึงเลยครับ (แต่ก้ไม่แนะนำให้เอามีดหรือวัสดุแหลมๆไปทดลองขีด)
วิธีการใส่ซิมก้แค่กดลงไป สำหรับตัวยึดเล็กๆของช่องใส่ซิมจะเป็นเอ็นเหนียวๆดูแล้วยืดหยุ่นดี น่าจะเป็นแบบเดียวกับที่ใช้บนตระกูล Xperia ของโซนี่เช่นกัน
ด้านล่างของตัวเครื่องมีเพียงไมค์สทนาเท่านั้น เวลาคุยให้เสียงที่ชัดเจนดี ผมว่าสินค้าในราคาระดับนี้แล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไรจุกจิกถึงแม้จะเป็นเครื่องจีนก้ตาม
ย้ายมาดูด้านขวามือบ้าง จะเป็นปุ่มเพิ่มและลดเสียงสีเงินเช่นกัน จริงๆแล้วแถบสีเงินทั้งหมดให้อารมณ์ที่ดีส่วนนึงเพราะมันไม่ใช่พลาสติกนั่นเอง
แอบหรูนิดๆสำหรับปุ่มเพิ่มและลดเสียง (เว่อร์ไป) จริงๆแล้วถ้าเพื่อนๆได้ไปงาน Thailand International Mpbile Show 2012 น่าจะลองได้สัมผัสปละทดลองเล่นในงานมาแล้วเหมือนกัน โดยรวมหลายๆคนไม่ค่อยมีเรื่องติในส่วนของการออกแบบตัวเครื่องมากนัก (มีบ้างที่ไม่ชอบกล้องยื่นๆ) แต่ส่วนใหญ่อาจจไม่คุ้นเคยในแบรนด์ใหม่เท่านั้น (OPPO เป็นแบรนด์จากจีน ที่ดูหมือนจะตั้งใจลุยในตลาดแอนดรอยแบบจริงจังมากๆ)
ด้านบนสุดของตัวเครื่องจะเป็นปุ่ม Power และส่วนของช่องต่อ USB
วิธีการแกะและอุปกรณ์ที่ใช้ยึดช่องเปิดปิดนี้ก้แบบเดียวกับในส่วนของช่องใส่ซิมทุกอย่าง
โดยรวมแล้วด้านหน้าใครเห็นก้แอบถูกใจครับ หน้าจอที่ใหญ่แต่ยังพกพาง่ายอยู่ หน้าจอมีความสดของสีสีนที่แอบถูกใจโดยเฉพาะแฟนๆ Super Amoled วัสดที่ใช้งาน การเก็บรายละเอียดเล็กๆ
จับกระชับมือเหมือนกันนะครับ และด้วยความบางก้เลยดูสวยไปอีกแบบ
เวลาอยู่ในมือจะมองเห็นได้ชัดมากๆเลยนะครับว่ามันบางจริงๆ เวลาถ่ายตอนอยู่บนพื้นบางครั้งอาจจะดูได้ไม่ชัดเจนมากนัก
หน่วยความจำในเครื่องทื่ให้ Ram มามากถึง 1 GB และให้ Rom มามากถึง 16 GB เรียกได้ว่าไม่แพ้แบรนด์ดังๆ เรียกได้ว่าจะลงเกมหรือโปรแกมก้คงได้จุใจหลายๆคน
เราเปลี่ยนมาชมด้านหลังของตัวเครื่องกันบ้าง ฝาหลังเป็นสีดำที่จะมองเห็น Logo OPPO อยู่ตรงกลางของฝาหลังพอดี ด้านบนจะเห็นกล้องความละเอียด 8 ล้านที่มาพร้อม Led Flash นั่นเอง ถัดลงมาในส่วนของด้านล่างสุด ก้จะเป็นลำโพงที่ผมกล้าพูดว่าให้เสียดังชัดเจนและใสดีมากๆรุ่นนึง
ตำแหน่งของลำโพง OPPO ที่ให้เสียงดังมากๆ และเสียงที่ได้หลังจากทดลองฟังด้วยเพลงหรีอชมวีดีโอ Mv จากเกาหลียิ่งแจ่มมากๆ โดยรวมเสียงจะออกใสๆมีเบสนิดๆ ไม่ได้ทุ้มมากหรือแตกซ่าเลยสักนิด ผ่านครับ แอบติดใจเหมือนกัน
น่าจะบอกว่าถึงแม้จะชูจุดขายเรื่องความบางแต่เรื่องมัลติมีเดียก้พอตัวครับ จากภาพผมถ่ายตอนกำลังชม MV อยู่พอดีเลย
กล้องหลังของ OPPO Finder ให้ความละเอียดมา 8 ล้าน (3264x2448 px) มาพร้อม LEd Flash และความสามารถถ่ายวีดีโอได้ที่ 1920x1080 px น่าเสียดายที่ตัวที่เทสยังไม่ใช้เฟิร์มแวร์ขายจริงๆ ทำให้มองไม่เห็นความสามารถของกล้องว่าลูกเล่นอะไรบ้าง
แต่จากที่ทดสอบถ่ายมาผมว่าให้สีสันที่สวยและสดพอตัวเลย
หน้าตาเวลาใช้งานแอพ Camera นะครับ ด้านขวามือจะเป็นส่วนของการปรับเปลี่ยนว่าจะเลือกถ่ายแบบวีดีโอหรือภาพนิ่ง ถัดลงมาก้คือส่วนของชัตเตอร์ถ่ายภาพ และล่างสุดเป็นเมนูภาพนั่นเอง
ด้านซ้ายมือเวลาเลือกตั้งค่าการมช้งานต่างๆ จะเป็นแถบวงกลมยื่นออกมาสวยดีครับ และถ้าไม่ใช้งานมันก้จะหดลงไปนั่นเอง
ภาพใกล้ๆอีกสักมุมสำหรับในส่วนของเมนูตั้งค่าตัวเครื่อง

ตัวอย่างภาพถ่ายที่ภ่ายด้วยกล้องของ OPPO Finder
OPPO Finder มาพร้อมแอนดรอยเวอร์ชั่น 4.0 การใช้งานในส่วนของเมนูก้จะตามแบบ ICS ด้านล่างจะมี Tab ให้เลือกเวลาจะตั้งค่าในส่วนต่างๆซึ่งสะดวกดีเหมือนกัน
สรุป
เป็นแอนดรอยที่น่าสนใจอีกรุ่นนึง ข้อเสียเล็กๆของรุ่นนี้อาจจะเป็นที่แบรนด์ที่หลายๆคนยังไม่ได้คุ้นเคยมากนัก สำหรับราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 14900 บาทที่ใกล้จะวางจำหน่ายแบบเป็นทางการในเร็วๆนี้
ข้อดีที่ต้องยอมรับก้คือในราคานี้เราจะได้แอนดรอยที่มาพร้อม ICS และความเร็วของซีพียูแบบ Dual Core 1.5 GHz ที่ให้หน่วยความจำแบบเต็มที่ในการใช้งาน Ram 1 GB , Rom 16 GB
ด้วยความบางที่เป็นจุดขายหลักที่บางมากๆ แต่ก้ยังใช้วัสดที่ดีให้น้ำหนักในการใช้งานและสัมผัสดีที่ ผมว่าถ้ามองที่การออกแบบมันจัดอยู่ในขั้นสวยพอตัวเหมือนกัน
หน้าจอที่สดแบบ Super Amoled ก้คงจะถูกใจหลายๆคน แต่เรื่องหน้าจออาจจะเป็นความชอบส่วนตัวซึ่งแต่ละคนอาจจะชอบไม่เหมือนกันก้ตาม
เสียงและการใช้งานดูหนังหรือฟังเพลง ลำโพงของ OPPO Finder ทำงานได้ดีเช่นกัน ให้เสียงที่ชัดและใส
ข้อเสียที่หลายๆคนอาจจะยังไม่มั่นใจก้คือ หากเราไม่มองเรื่องแบรนด์ (จริงๆแล้วเค้าลุยตลาดเยอะนะครับ แต่คงต้องใช้เวลาระยะยาวอีกนิด) รุ่นนี้เราไม่สามารถเพิ่มหน่วยความ Micro SD ได้และอีกจุดก้คือเรื่องหูฟังที่ไม่ได้ในแบบขนาด 3.5
เอาเป็นว่าใครชอบมือถือที่บางและชอบวัสดุที่ดูดีเจ้า OPPO Finder ก้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ใครที่ได้ไปงาน Thailand International Mobile Show 2012 ก้คงจะได้ลองเล่นกันแล้วว่าแอบโดนใจหรือไมชอบในจุดไหน สำหรับเพื่อนๆที่สนใจวันอาทิตย์นี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่จะได้ทดลองเล่นกันนะครับ อย่าลืมไปเที่ยวงานกัน |