วันนี้ได้แอนดรอยจากฝั่งเจแปนมารีวิวให้เพื่อนๆได้อ่านกัน ก่อนหน้านี้ดูเหมือนที่เว็บเคยมีรีวิว Galaxy S 3 Docomo ไปแล้ว ซึ่งต่อไปพวกเราก้จะคุ้นเคยกับ Launcher มากขึ้น เพราะเกือบทุกรุ่นส่วน ใหญ่ที่มาจาก Docomo จะใช้ Launcher แบบเดียวกันหมดเลย
Docomo Fujitsu F-10D Arrows X เป็นมือถือที่จะสรุปได้แบบสั้นก้คือ เป็นมือถือ Quard Core ที่มาพร้อม จุดเด่นเรื่องกันน้ำ (มือถือจากฝั่งเจแปนมักจะเป็นแบบนี้) กล้องความละเอียด 12 ล้านและจุดขายเรื่องที่ ชาร์ตแบบไร้สาย เอาเป็นว่าเราไปแกะกล่องกันก่อนก้แล้วกัน จากภาพแรก : ก้คือด้านหน้าของกล่องนั้นเอง ด้านมุมซ้ายมือด้านบนจะมีคำว่า docomo และชื่อรุ่นก้คือ Arrows X F-10D ด้านหลังกล่องก้จะขาวๆเรียบๆไปเลย แน่นอนว่าถ้าแค่พูดว่ามือถือ Docomo ตระกูล Next Series คงจะมีเพียบเลย หากสนใจรุ่นนี้วิธีสังเกตก้ คือมุมซ้ายด้านบนของกล่องจะมีตัวเลขของแต่ละรุ่นเอาไว้ อย่างรุ่นนี้ก้เป็น F-10D ตัวกล่องเป็นสีขาวแข็งแรงดี สำหรับสีของตัวมือถือด้านในก้จะมีบอกในส่วนของหน้ากล่องนั่นเอง อย่างตัว นี้เป็นสีฟ้าก้จะเขียนว่า Blue นั่นเอง หลังจากเปิดกล่องออกมาก้จะเจอมือถือละ พระเอกของงานนี้ Docomo Fujitsu F-10D Arrows X ลองมาดูอุปกรณ์ในกล่องกันบ้างก้แล้วกัน สำหรับรุ่นนี้อุปกรณ์ที่เราจะได้ก้คือ
ตัวมือถือ Fujitsu F-10D Tegra 3 Smartphone
Battery
Wall Socket Charger
Micro SD memory card (2GB)
Wireless Charger Pad
Wireless Charger AC Adapter plug
Box & Manual x 1
ก้ตามภาพเลยนะครับ สำหรับแท่นสี่เหลี่ยมขาวๆนั่นก้คือ Wireless Charger Pad นั่นเอง แค่เราวางมือถือ ด้านบนก้จะเป็นการชาร์ตไปในตัว เรียกได้ว่าสะดวกมากๆ ในกล่องยังจะมีหน่วยความจำแบบ Micro SD มาให้ 2GB ด้วยนะครับ ผมเห็นหลายรุ่นละเค้าจะแถมมาให้ ตลอดเลย / สำหรับรุ่นนี้รองรับการทำงานของ Micro SD สูงสุดอยู่ที่ 32 GB นะครับ เอาละพระเอกของเราออกมาแล้ว สำหรับ Docomo Fujitsu F-10D Arrows X จากภาพอาจจะดูไม่ชัด แต่จริงๆแล้วสั่นกว่า Galaxy S 3 อยู่นิดหน่อย ตัวเครื่องงานประกอบส่วนใหญ่เป็นพลาสติก แต่งานประกอบ ทำออกมาได้ดี งานประกอบจะมีมิติของเหลี่ยมและมุมซึ่งก้สวยไปอีกแบบเช่นกัน หากถามความคิดส่วนตัว ได้อารมณ์เหมือนมือถือหุ่นยนต์ที่มีช่องเอาไว้แปลงร่างเลยแฮะ (แต่ก้ชอบนะ) ก่อนจะไปชมส่วนอื่นๆของตัวเครื่อง เรามาดู Spec แบบคร่าวๆของรุ่นนี้กันก่อนก้แล้วกันSpec Docomo Fujitsu F-10D Arrows X
มาพร้อมหน่วยประมวลผลแบบ Quard Core ความเร็ว 1.5GHz ใช้ชิพของ TEGRA 3
มาพร้อมระบบแอนดรอย Android 4.0 ICS
หน้าจอมีขนาด 4.6 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 720×1280 Aquos ASV HD Screen
ขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 135mm x 67mm x 11.8mm และมีนำหนัก Weight: 155g
มาพร้อมกล้องความละเอียด 13.1 Meg Pixel CMOS Camera ส่วนกล้องหน้า 1.3 Meg Pixel CMOS
หน่วยความจำในเครื่อง 16GB ROM / 1GB RAM
รองรับ SD Memory: Up To 32GB
ตัวเครื่องออกมาวางจำหน่ายทั้งหมด 3 สี Black/White/Blue
ชูจุดเด่นเรื่องกันน้ำ Water Resistant
Wireless charging
มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 1800mAh
จะเรียกได้ว่าจัดมาเต็มพอตัวเลย ใช้หน่วยประมวลผลแบบ Quard Core ความเร็วระดับ 1.5 GHz ใช้ชิพของ Tegra3 ให้หน่วยความจำในเครื่องมา 16 GB ละให้ Ram มา 1 GB ตัวเครื่องมาพร้อมระบบ แอนดรอยเวอร์ชั่น 4.0 ICS หน้าจอมีขนาด 4.6 นิ้ว พร้อมกล้องความละเอียด 13.1 ล้าน หน้าจอขนาด 4.6 นิ้วให้การแสดงผลที่จุใจ หน้าจอให้ความคมมาก ส่วนด้านบนของรุ่นนี้จะมีโลโก้ docomo อยู๋ด้านบน ด้านซ้ายมือตามภาพก้จะเป็นส่วนของเซ็นเซ่อร์นั่นเอง และขวามือกือคือกล้อง หน้าถ่ายได้ที่ 1.3 ล้าน ด้านล่างของเครื่องจะเห็นปุ่มใช้งานในส่วนของ Option , Home และ Back ที่มาเป็นปุ่ม ข้อดีของการ ใช้งานแบบนี้ก้คือให้สัมผัสที่ใช้งานได้แบบเต็มที่ และไม่ค่อยเกิดข้อผิดพลาดเวลามือไปโดนและคำสั่ง ทำงานเองเหมือนปุ่มใช้งานแบบทัชสกรีน จะเห็นได้ว่ารอบๆด้านล่างจะดูเป็นเหลี่ยมๆนิดๆ ซึ่งเป็นเหลี่ยมที่สวยไปอีกแบบใครชอบมือถือจากเจแปน ก้คงจะคุ้นเคยดี ตัวเครื่องเป็นสีฟ้า ทำให้ถ่ายภาพยากนิดนึงเพราะมันสะท้อนแสงนั่นเอง ทำให้มองเห็นรายละเอียดของ ตัวเครื่องน้อยไป ลองนำมาถือในมือ มือถือรุ่นนี้ให้ขนาดและน้ำหนักพอดีมือ จับแล้วกระชับดี (Galaxy S 3 บางครั้งก้เบาจนมันอยากจะบินได้) ในรุ่นที่เป็นสีฟ้า เครื่องโดยรอบทั้งหมดจะมีสีฟ้านั่นเอง นั่นหมายถึงในส่วนของฝาหลังด้วยก้ใช่เช่นเดียว กัน เพียงแต่ในบางส่วนอาจจะมีการเล่นระดับความเข้ามของสีให้ดูแตกต่างและมีระดับเท่านั้น อย่างในภาพ ตรงขอบด้านข้างเป็นสีฟ้าที่จะดูอ่อนลงไปสักนิด หากนำมาเทียบกับตรงฐานด้านล่างของ ตัวเครือง ส่วนปุ่ม Hard Key ก้จะเป็นสีดำนำครับ คงกะจะให้กลืนไปกับหน้าจอนั่นเอง ปุ่มทุกอย่างดูแน่น หนา งานประกอบดีมากๆเลย จะเห็นได้ว่าตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้เป็นเหลี่ยมนิดๆ แต่เป็นความตั้งใจที่ผมกลับมองแล้วชอบนะ สวยดี ไม่เหมือนในหลายรุ่นที่ถ้าทำออกมาเป็นทรงเหลี่ยม มันดูทื่อจนขาดเสน่ห์ไป (เอ๊ะหรือชักจะติดใจ) ด้านบนของตัวเครื่องจะมีช่องเอาไว้เชื่อมต่ออยู่นะครับ ถ้ามองจากภาพช่องขวามือก้คือช่องต่อ usb นั่นเอง ส่วนช่องทางซ้ายมือก้คือส่วนเอาไว้ต่อหูฟังแบบ 3.5mm นั่นเอง ตรงช่องทั้งสองช่องใช้วิธีการงัดขึ้นมา ซึ่งออกแรงแค่เบาๆก้พอเพราะด้านหลังจะมีช่องเล็กๆให้เอาเล็บ สอดสะกิดขึ้นมานั่นเอง สำหรับข้อต่อของแต่ละช่องน่าจะถูกยึดเอาไว้ด้วยเอ็นนะครับ น่าจะเหนียวพอตัวอยู่ ผมลองแกะสำหรับช่องการเชื่อมต่อ Usb มาให้ชมกัน ถ้าใครเคยใช้งานพวก USB Flashdrive ที่ผมเคยเอามาให้ชมตอนที่ทดลองใช้งานบน Galaxy S 3 ก้สามารถนำมาใช้งานบนรุ่นนี้ได้เหมือนกัน นะครับ ต่อไปการโอนย้ายไฟล์ก้สะดวกละ ใช้สาย Usb ต่อแล้วเชื่อมเข้ากับ FlashDrive จบเลย ในมุมด้านหลังของเครื่อง เราจะเห็นช่องเล็กๆด้านบน นั่นแหละคือส่วนที่จะใช้งัดขึ้นมา ใช้งานง่ายครับ ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะมีปุ่ม Power และปุ่ม Voloum เพิ่มและลดเสียง มุมด้านข้างครับ ซึ่งจะว่าไปแล้วสีน้ำเงินมันก้สวยเหมือนกันนะครับ แต่ใจจริงอยากได้สีดำนะ ด้านขวาของตัวเครื่องเรียบๆครับ ไม่มีอะไร แต่จะว่าไม่มีเลยก้ไม่ถูก ด้านล่างจะมีช่องเล็กๆเอาไว้ใส่สาย ห้อยนะครับ เปลี่ยนมาชมด้านหลังของตัวเครื่องกันบ้าง ด้านหลังจะมีจุดเด่นๆอยู่หลายจุด ก้มีกล้องหลัง ความละเอียด 13.1 ล้าน (ลูกเล่นก้ให้มาเยอะพอตัว) มีปุ่มปลดล้อกหน้าจอด้วยนิ้วมือด้วย จากภาพก้คือสี่เหลี่ยมดำๆใต้กล้องนั่นแหละครับ แถบจะไม่ต้อง แตะปุ่มปลดล้อกในหน้าจอปกติ ใช้นิ้วชี่ทาบก้ผ่านฉลุยละ สะดวกและดูล้ำๆแฮะ ด้านล่างก้มีช่องลำโพงหลังอยู่มุมๆด้านล่างครับ ให้เสียงทีดังใช้ได้เลย วิธีการแกะฝาหลังก้จะมีช่องเล็กๆให้งัดขึ้นมานะครับ แกะไม่ยากเช่นเดิม เอาละเราลองมาดูด้านในของฝาหลังกันบ้างว่ามีการจัดวางอะไรเอาไว้แบบไหนกันบ้าง ฝาหลังเป็น พลาสติกถึงแม้จะมีความเหนียวและยืดหยุ่น แต่ก้คงจะไม่ใช่ระดับเดียวกับแบบของ Galaxy Note นะครับ ห้ามงอพับครึ่งเด็ดขาด เปลือยดูด้านในกันสักรอบ แบตเตอรี่ของรุ่นนี้ให้มาที่ความจุ 1800 MAh นะครับ ก้จะเห็นช่องใส่ซิมแบบ มินิ ด้านบนจะเป็นช่องใส่ Micro SD จบละสำหรับการรีวิวในส่วนของตัวเครื่องและการแกะกล่อง เดี่ยวมาชมในเรื่องของกล้องและโปรแกรม ด้านในกันบ้าง
สำหรับ Docomo Fujitsu F-10D Arrows X เราสามารถเลือกปลดล้อกหน้าจอ Home Screen ได้ 2 แบบด้วยกัน ซึ่งมันก้เป็นข้อดีนะครับ ผมว่ารุ่นนี้เค้าทำออกมาได้น่าสนใจมากๆ 1. แบบแรกก้คือการปลดล้อกแบบปกติ ใช้มือกดปุ่มปลดล้อกที่หน้าจอ 2.ใช้นิ้วลูบผ่านด้านหลังที่เป็นช่องสี่เหลี่ยมใต้กล้อง (นึกไม่ออกลองย้อนไปดูรูปภาพด้านบน) ซึ่งปุ่มตรง นี้ทำงานเหมือนปุ่ม เปิด/ปิด หน้าจอได้เช่นเดียวกันกับปุ่ม Power เพียงแต่ไม่สามารถกดเพื่อ Restart / Off ได้ จะว่าไปก้สะดวกนะครับ มันอยู่ในตำแหน่งที่เวลาเราใช้งานมือถือแล้วนิ้วชี้สามารถเลื่อนลงมายัง ตำแหน่งนี้ได้พอดี ตอนใช้งานเครื่องครั้งแรก ที่หน้าจอก้จะมีสอนวิธีการใช้งาน Swipe Fingerprint นะครับ ใช้นิ้วลูบผ่าน เบาๆก้ทำงานได้ละ แต่ถ้าเราไม่อยากให้มันเตือนอีกก้กดปุ่มกากบาทไปซะ แน่นอนว่าเจ้า Docomo Fujitsu F-10D Arrows X มาพร้อม 4.0 ICS ดังนั้นเราก้สามารถใช้งานเมนู Notification Bar ได้แม้กระทั้งหน้าจอโดนล้อกอยู่หรือแม้กระทั่งมี Quick App ให้ใช้งานที่หน้าจอ จากภาพถ้าไล่จากซ้ายไปขวาก้คือ เปิดปิดไวไฟ , เปิดปิดบลูธูท , GPS , เปิดใช้งานโหมดสั่น , ใช้งาน Wifi Tethering , เลือกการใช้งาน Rotate Screen , ปรับความสว่างหน้าจอ , และโหมด FM หากใช้งานมือถือจากค่าย Docomo เราก้จะได้ Launcher ตามแบบของ Docomo มาให้ด้วยเสมอ / ในก่อนหน้านี้ที่ผมเคยเล่น Galaxy S 3 ที่วางจำหน่ายผ่านเครือข่าย Docomo เราจะได้ Launcher มาทั้งหมดสองแบบด้วยกัน นั่นก้คือ Touchwiz และ Docomo แต่สำหรับรุ่น Docomo Fujitsu F-10D Arrows X จะมาพร้อมกับ Docomo Launcher เท่านั้น ซึ่งจุดเด่น ที่จำง่ายๆของ Launcher นี้ก้คือจะมีตุ๊กตาเดินๆไปมาให้เราด้วย น่ารักดี/เอาไว้บอก Status บางอย่าง และ ในส่วนของหน้า All App ที่มีการจัดวางแตกต่างจากแบบอื่นๆที่เราเคยใช้งานกัน เราสามารถเลือกเปลี่ยนรูปแบบของธีมได้แบบง่ายๆ เพียงแค่กดปุ่ม Option ในหน้าจอหลักก้จะมีเมนูให้ เลือกเปลี่ยน จากภาพก้คือคำสั่ง Kisekae นั่นเอง ส่วนคำสั่งอื่นๆก้เป็นมาตรฐานเหมือนแอนดรอย 4.0 ทั่วไป ถึงแม้ Docomo Fujitsu F-10D Arrows X จะเป็นมือถือจากเจแปน แต่ก้ไม่มีปัญหาเรื่องเมนูแบบภาษา อังกฤษนะครับ และทั้งหมดในการใช้งานก้เข้าใจได้ไม่ยาก ถึงแม้อาจจะมีบ้างที่มีบางคำสั่งเป็นภาษา ญี่ปุ่นหลงอยู่ แต่นั่นก้จะเป็นเพราะแอพที่มาจากทาง Docomo เท่านั้น เราแวะเข้ามาดูในส่วนของรูปแบบธีม Launcher กันดีกว่าว่ามีกี่แบบ หลังจากเรากดคำสั่ง Kisekae เราจะเจอรูปแบบให้เลือกแตกต่างกันมากถึง 5 แบบ สวยดีครับ แต่ละแบบดูเรียบง่ายแต่ก้น่ารักตามแบบ ฉบับญี่ปุ่นเค้าละ หลังจากเลือกเปลี่ยนให้ดูสักแบบก้จะออกมาประมาณนี้ครับ ลองเข้ามาดูในส่วนของเมนูด้านในกันบ้าง ว่าการจัดรูปแบบของ Docomo Fujitsu F-10D Arrows X มีหน้าตาแบบไหนและการใช้งานแบบไหน สำหรับด้านบนจะมี Tab สองคำสั่งก้คือหน้า Application และ Recommends (แนะนำแอพที่น่าสนใจ ส่วนใหญ่จะเป็นแอพจากฝั่งเจแปนนะ) สำหรับในส่วนของ Application จะมีการจัดวางแอพเอาไว้แบบบนลงล่าง โดยจะทำการแบ่งเป็นส่วนๆเอาไว้ วิธีการย้ายหรือลบโปรแกรมเราก้สามารถทำได้ที่หน้าจอ App นี้เช่นกัน นั่นหมายถึงการ Move App ไปยังหมวดหมู่ที่เราต้องการด้วยเช่นกันนะครับ สำหรับวิธีใช้งานก้เพียงแค่กดแช่ที่บน App นั่นๆ ก้จะมีคำสั่งใหม่โผล่ขึ้นมา Add : กดเพื่อเลือกแอพไปยังหน้า Home Uninstall : ลบโปรแกรมนั่นๆออกไป Move : ย้ายหมวดหมู่ของแอพ หากเราเลือกใช้คำสั่ง Move เราก้จะเจอหน้าตาการใช้งานตามภาพ อยากจะย้ายแอพไปไว้ยังส่วนไหนก้แค่กดเลือกหัวข้อนั้นๆนะครับ เรามาดูกันดีกว่าสำหรับ Docomo Fujitsu F-10D Arrows X เราจะได้แอพอะไรมาบ้าง รวมถึงมีการจัดหมวดหมู่อะไรเอาไว้ให้เราแล้วบ้าง สำหรับด้านบนสุด เรียกได้ว่าช่วยให้การใช้งานแอพได้สะดวกมาก เพราะจะนำแอพที่ใช้งานล่าสุดมาไว้ด้านบนนั่นเอง DOCOMO Servcice เป็นบริการของทางเครือข่าย Docomo ซึ่งหลายๆแอพน่าสนใจ แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถใช้งานในบ้านเราได้นะครับ อดไป / อ้อ ไม่สิ มีคำสั่งนึงเราใช้งานได้บ้างก้คือ Machi-Chara : ก้คือเจ้าตัวตุ๊กตาที่เดินไปมาในหน้าจอหลัก Basic Functions : รวมพวกแอพพื้นฐานในการใช้งาน จะมีที่น่าสนใจก้คือ Phonebook สวยดีและ SD card Backup เป็นแอพที่ช่วยสำรองข้อมูล หมวด Entertainment แอพเกี่ยวกับการดูหนัง ฟังเพลง ดูทีวีอดนะครับ หมวด Tools มีแอพพวก Camera ,Memo ,Health Diary , Document View Osaifu/Shopping แต่เป็นบริการในเจแปนนะครับ น่าเสียดาย เมนู Setting รวมแอพจาก Google แล้วก้สุดท้ายรวมแอพที่เราเคยดาวโหลดเอาไว้ครับ จบละสำหรับส่วนต่างๆของหมวดหมู่ Docomo Fujitsu F-10D Arrows X แวะมาดูการใช้งานตุ๊กตาน้อยที่เดินไปมาหน้า Home กันหน่อยดีกว่า เราสามารถเลือกเปลี่ยน Character ได้ด้วยนะครับ ที่ให้มาจะมี 2 แบบ แบบที่มีให้เลือกโหมดของกล้องถ่ายภาพ กล้องของ Docomo Fujitsu F-10D Arrows X ให้ความละเอียดมามากถึง 13.1 ล้าน โดยรวมแล้วให้ ลูกเล่นมาเพียบเหมือนกัน เราสามารถเลือกการใช้งาน Option ต่างๆของกล้องได้จากการดึงแถบเมนูด้าน บนลงมานะครับ ลองมาดูกันว่ามีอะไรให้มาบ้าง อันแรกจากภาพแรกก้เป็นส่วนของ Shooting mode ส่วนที่เด่นก้คงจะเป็น Best-shot Select ซึ่งหากเรา เลือกการใช้งานส่วนนี้ เวลากดถ่ายหนึ่งครั้ง ตัวเจ้า Docomo Fujitsu F-10D Arrows X จะจับภาพมาให้ 7 ภาพและจะเลือกภาพที่ดีที่สุดมาให้เรา หรือถ้าเราไม่เชื่อตัวระบบของกล้องเราก้สามารถมาเลือกเองก้ ได้เช่นเดียวกัน เราสามารถเลือกรายละเอียดของการถ่ายแบบ Smile Shot ได้ เราจะตั้งค่าหากมีการใช้งานในการถ่าย เพื่อนคนเดียวหรือเป็นกลุ่มหลายคน เลือกโหมดการทำงานของกล้อง อยากได้การถ่ายแบบไหน จะออโต้หรือโหมดถ่ายบุคคล วิว กลางวัน กลางคืนประมาณนั้น อันนี้ก้แจ่มสำหรับ Effect ที่มีให้มา เรียกได้ว่าเพียบเลย หากต้องการชัดตื้น ชัดลึก ก้ไม่มีปัญหา หลักจากถ่ายภาพได้ตามที่ต้องการ เวลากดดูรูปภาพ ก้จะมีแถบแอพด้านข้างโผล่ขึ้นมา เผื่อเราต้องการ ที่จะส่งหรือแชรภาพออกไปตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง การทดสอบตัวเลขต่างๆ เอาละมาดูผลทดสอบจากโปรแกรมยอดฮิตกันบ้าง เริ่มจากผลทดสอบผ่านแอพ Multitouch สำหรับ Docomo Fujitsu F-10D Arrows X รองรับการทำงาน 10 จุด ซึ่งจริงๆแล้วรุ่นใหม่แบบนี้ก้น่าจะทำได้ 10 จุดอยู่แล้ว ผลทดสอบด้วยโปรแกรม Quadrant Standard เจ้า Docomo Fujitsu F-10D Arrows X ได้คะแนนไป 3327 แต่จะว่าไปแล้วรุ่นนี้ก้แรงไม่น้อยหน้าใครนะครับ Spec ในส่วนของซีพียู
Docomo Fujitsu F-10D Arrows X Tegra 3 Japanese Android Smartphone
Just released ! Part of Docomo's Summer 2012
This is the Powerhouse "Made in Japan" phone that everyone has been waiting for !
Powered by Nvidia's Tegra 3 Processor ! This phone is a Quad-Core + 5th Shadow
Core CPU Phone !
Also has 12 GPU Cores to process the high end graphics for Gaming
When Running graphic intense Games / Apps, the phone uses all 4 Cores, but when
just doing simple phone tasks, it only uses the 5th shadow core to save on Battery life !
Download and play Tegra powered Games / Apps from the Tegrazone to experience
the full power of this phone
Also has Fujitsu's Human Centric Engine. This phone is the all in one High-Spec
smartphone !
The Human Centric Engine allows the phone to tune itself specifically to each user using the front sensor
Will automatically sense and adjust brightness of the phone based on your surroundings.
If you are in a dark room, it will sense this and increase brightness, if you are in a sunny or bright area, it will decrease brightness to save battery
If you are in a noisy surroundings, it will sense and automatically adjust audio / voice to match your situation.
และสุดท้ายผลทดสอบด้วย Neocore ทำคะแนนได้ไป 061.7FPS มาพร้อมแอนดรอย 4.0.3 สำหรับรุ่นนี้มีจุดเด่นในส่วนของการประหยัดพลังงานนะครับ จะมีโหมดที่ชื่อว่า NX! eco ที่เราสามารถตั้งการทำงานของซีพียูได้ ว่าช่วงเวลาไหนอยากให้มีการใช้งานของซีพียูมากหรือ น้อยแค่ไหน เช่นตอนหลับอาจจะตั้งเวลาเอาไว้ 5 ทุ่ม - 6 โมงเช้า ให้ลดการทำงานของซีพียูให้น้อยที่ สุดอะไรแบบนั้น หน้าตอของการทำงาน NX! eco โหมด น่าใช้งานมากๆครับ จุดเด่นเรื่องการชาร์ตแบตแบบไร้สาย Docomo Fujitsu F-10D Arrows X ยังจะมาพร้อมจุดเด่นอีกเรื่องที่สำคัญก้คือ มันสามารถชาร์ตแบต เตอรี่แบบไร้สายได้นั่นเอง เพียงแค่เราวางเจ้า Docomo Fujitsu F-10D Arrows X บน Wireless Charger เท่านั้นนะครับ หลักการทำงานแบบนี้สะดวกเวลาเรามีความต้องการจะใช้งานมือถือไปและชา่ร์ตไป หลายครั้งข้อจำกัด เรื่องสายชาร์ตแบตอาจจะทำให้การใช้งานไม่สะดวกมากนัก ไหนๆพูดถึง Wireless Charger ลองมาดูหน้าตาของมันสักหน่อยดีกว่า มุมบนซ้ายมือจะมีไฟบอกการใช้งานนะครับ หากมีการใช้งานการชาร์ตแบตแบบไร้สาย จะมีแถบไฟสีฟ้า วิ่งขึ้นลงตรงตำแหน่งนี้ หรือตำแหน่งด้านซ้ายของตัวฐาน ซ้ายมือก้คือส่วนของไฟนะครับ และขวามือก้คือที่วางมือถือ หากเราต้องการใช้งาน ผมว่ารุ่นนี้คุ้มในหลายๆอย่าง ถึงแม้คะแนนความแรงอาจจะไม่ได้แรงมากนัก แต่โดยรวมแล้วน่าสนใจ เหมือนกัน แปลกดีด้วย ด้านหลังของตัว Wireless Charger และสุดท้ายช่องเสียบไฟสำหรับเริ่มใช้งาน จุดขายเรื่องความทนทาน การป้อนกันน้ำที่ทำได้ดีมากๆ ลองไปชมวีดีโอที่มีการทดสอบ สรุป แอนดรอยจากญี่ปุ่นต่อไปน่าจะมีเข้ามาวางขายในบ้านเรามากขึ้น แน่นอนมันไม่ใช่เครื่องศูนย์แน่ๆ และต้องขอบคุณเครื่องที่ส่งมาให้ทางเว็บได้ทดลองใช้งานจากคุณย้งนะครับ www.Ysrshop.com สำหรับคนที่สนใจ แอนดรอยหรีออุปกรณ์เสริมก้ลองแวะเข้าไปชมได้ แวะเข้ามาที่เรื่องมือถือ หากมองจุดเด่นเรื่องการชาร์ตแบบไร้สาย การปลดล้อกด้วยนิ้ว การกันน้ำได้ดี มากๆ ความเร็วแบบ Quard Core + กับลูกเล่นของกล้องที่ให้มาไม่น้อย ทั้งหมดก้เป็นจุดเด่นที่ทำให้รุ่นนี้น่าสนใจขึ้นมา ทันที ถึงแม้คุณภาพของภายถ่ายอาจจะไม่โดนใจผมมากนัก แต่โดยรวมแล้วก้ทำได้ดีรุ่นนึง การเชื่อมต่อแบบ OTG ของ USB ก็เป็นอีกจุดที่ผมชอบเป็นการส่วนตัว เวลาใช้งานกับเครื่อง Mac แค่เสียบผ่านสาย usb เจ้า Mac ก้จะมองเห็นเป็น Drive ทันทีด้วยเช่นกัน เอาเป็นว่าอยากใช้งานมือถือฝั่งเจแปน ชอบระบบแอนดรอย Docomo Fujitsu F-10D Arrows X ก้เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจครับ Thanks Video : TempuraTech , Roger Rogers