เริ่มกันที่ภาพตัวเครื่องก่อน อันนี้รูปถ่ายจะเป็นเครื่องสีขาว Marble White นะครับ
สำรวจภายนอก
เริ่มกันที่กล่องกันก่อนเลย กล่องจะเป็นกล่องกระดาษสองชิ้นครอบกัน ด้านหลังจะมี Specs ระบุไว้ชัดเจน แต่ไม่ได้ถ่ายมาครับ แหะๆ
พอเปิดออกมาก็จะเจอเครื่อง Galaxy S3 นอนอยู่ เอาเครื่องออกมา ก็จะมีอุปกรณ์สำคัญครับ ภาพด้านบนจะไล่จาก คู่มือ หูฟัง (ไม่ว่าจะรุ่น Pebble Blue หรือ Marble White ก็จะได้หูฟังสีขาว) พร้อมไมค์ และจุกอุดหู อีกสามแบบ จะทำให้เสียงต่างกันไป และสุดท้ายคือ Adapter ใช้สาย USB ครับ
เอาเครื่องออกมาเชยชมกัน รูปนี้ถ่ายไว้โดยยังไม่แตะตัวเครื่องเลยครับ ขนาดถ้าเทียบกับ iPhone แล้วอาจจะรุ้สึกว่าใหญ่ในตอนแรก แต่ถ้าเทียบกับ Galaxy S2 ก็ไม่ได้ดูใหญ่อะไรขนาดนั้นครับ
ด้านหน้าประกอบด้วยหน้าจอ 4.8 นิ้ว ด้านล่างมีปุ่ม Home พร้อมปุ่ม Menu ด้านซ้ายและปุ่ม Back ด้านขวา ตามฉบับ Samsung ครับ ด้านบนเป็นลำโพง Sensor วัดแสง Proximity Sensor และกล้องหน้า 1.9 ล้านพิกเซล ด้านซ้ายของลำโพง (ในรูปมองไม่เห็น) จะเป็น LED กระพริบเตือนเวลามีสายที่ไมไ่ด้รับหรือการเตือนอื่นๆครับ สี Pebble Blue จะเห็นชัดกว่า
ปุ่ม Home จะพบว่ากดยากกว่า Galaxy S2 ด้วยทรงที่เรียวยาวมากกว่าเหลี่ยมใหญ่ๆ แต่ถ้ากดจนชินแล้วก็ไม่เป็นปัญหาเท่าไรครับ ไม่ได้ลำบากขนาดนั้น แค่ให้ชินพอ
จุดที่ไม่ถนัดอย่างคือบางคนอุ้งมือใหญ่แบบผมเวลาเอานิ้วโป้งซ้ายเอื้อมไปแตะอะไรด้านขวาของจอ อุ้งมืออาจจะไปโดนปุ่ม Menu ด้านซ้ายมือให้มันโผล่ขึ้นมาเล่นๆ และถ้าใช้มือขวาจะเป็นปุ่ม Back แทน…ซึ่งน่ารำคาญไม่น้อย
ลอกฟิล์มออก ชะแว้บ หน้าจอใหญ่ได้ใจ
ในส่วนของหน้าจอ สำหรับผมที่มีขนาดมือถือว่าค่อนข้างใหญ่ใช้มือเดียวอาจจะใช้นิ้วโป้งนิ้วเดียววาดไปทั่วทั้งจอลำบากนิดนึง อาจจะต้องมาการปรับเปลี่ยนท่าจับ แต่ถ้าฝึกให้ชินแล้วจะคล่องครับไม่มีปัญหา แต่ถ้าใช้บนรถไฟฟ้าหรือที่เบียดๆอาจจะลำบากหน่อย แต่สำหรับสาวน้อยมือเล็กๆแล้วอาจจะลำบากนิดนึงในการใช้มือเดียวให้จิ้มครบทั้งจอ แต่แลกมากับหน้าจอที่ใหญ่อ่านสบายแทนครับ
ถ้าใช้สองมือก็สบายๆ ครับไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ตัวเครื่องน้ำหนักเบาครับ ไม่ต้องห่วงเลยว่าจะหนักจนเมื่อย ด้วยตัวเครื่องที่โค้งมนทำให้จับเข้าอุ้งมือง่ายพอสมควรครับ จะรู้สึกกระชับกว่า S2 หรือ iPhone ด้วยซ้ำ
ทังนี้ทั้งนั้นแนะนำให้ไปจับของจริงครับ ความถนัดแต่ละคนไม่เหมือนกันจ้า
ด้านหลังเป็นฝาหลังทั้งตัวแม้มันจะดูเหมือนพลาสติกทั่วไป แต่วัสดุทำจาก Polycarbonate ซึ่งเป็นพลาสติกประเภทหนึ่ง ซึ่งทนทานและยืดหยุ่นดีกว่าพลาสติกทั่วๆไปมาก แถมยังเคลือบ Hyperglaze เป็นมันวาวทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้ยากอีก ด้านบน ซ้ายมือที่มีจุดเหลืองๆคือ Flash ตรงกลางเป็นกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และขวาสุดคือลำโพงครับ
ดูกันชัดๆสำหรับฝาหลังครับ กล้องจะนูนออกมากว่าเพื่อน ถ้าไม่มีเคสแล้วการวางหงายน่าจะเป็นอันตรายต่อตัวเลนส์กล้องพอสมควรครับ ระวังจุดนี้ให้ดี แต่ Smartphone รุ่นหลังๆชอบเป็นแบบนี้หมด เพราะว่าต้องการทำให้ตัวเครื่องบางลงล่ะนะ
ด้านซ้ายมีปุ่มเพิ่มลดเสียง สังเกตดีๆว่าตัวเครื่องมีความโค้งมน แต่ไม่ได้เป็นโค้งเว้าแบบ Galaxy Nexus ซะทีเดียว หน้าจอจะเป็นขอบแบบโค้งนูนออกด้วยซ้ำ แต่ตรงกลางหน้าจอกับฝาหลังจะราบเรียบสนิทดี นึกไม่ออกลองนึกถึงหินก้อนกลมๆแบนๆ แบบนั้นเลยครับ
ด้านขวามีปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่องและพักหน้าจอ… ลานเส้นสองข้างเหมือนกัน คือมีขอบเคลือบโครเมี่ยมทำให้ดูเหมือนโลหะสร้างความหรูหราแก่ตัวเครื่องโดยไม่เพิ่มน้ำหนัก
ด้านบนเป็นที่รูหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร พร้อมกับไมค์ตัวบน (จุดดำๆซ้ายมือ) มีหน้าใช้งานตอนเปิดคุย Speakerphone หรือถ่ายวิดีโอ
ด้านล่างมีรู Micro USB และไมค์ล่างเอาไว้ใช้เวลาพูดคุยโทรศัพท์ปกติ
มาดูด้านในกันบ้าง หลังจากแกะฝาหลังออก (ด้วยการงัดรูด้านบนแล้วยกเลย จะหลุดออกมาทั้งฝาหลัง) ด้านล่างจะพบกับที่ใส่ Micro SD (ด้านซ้ายในรูป) และที่ใส่ Micro SIM (ถาดด้านขวาในรูป) วิธีใส่ก็สอดเข้าไปเลยทั้งสองอันแล้วจิ้มเข้าไปให้สปริงอยู่ตัวก็เสร็จพิธี (เหมือนเวลาเราใส่ SD Card ในกล้องน่ะแหละ)
ที่น่าสนใจคือใช้ Micro SIM แล้ว ฉะนั้นใครใช้ SIM ปกติอย่าลืมไปเปลี่ยนก่อนใช้งานนะจ้ะไม่งั้นน้ำตาตกนะต้องรอวันรุ่งขึ้นเอาไปเปลี่ยนแบบเพื่อนผม
แบตเตอรี่ความจุ 2100mAh เยอะกว่า Galaxy S2 ถึง 450mAh เพื่อมารองรับหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นและขุมพลังสี่แกน Quad Core ตัวแบตเตอรี่ของแท้จะต้องมี NFC (Near Field Communication) ด้วยนะครับ
บูทเครื่องชะแว้บบบบบบบบ เพื่อไปทดสอบประสิทธิภาพกันต่อ ต่อไปมาดูเรื่องผล Benchmark กันก่อนดีกว่าว่าเจ้านี่จะโหดขนาดไหน
Benchmark*
*ผล Benchmark ข้างล่างต่อไปนี้เป็นเครื่องส่วนตัวของผมเอง ซึ่งมีการใช้งานทั่วไปและลงแอปได้ระดึบหนึ่งแล้ว (ราวๆ 2 สัปดาห์) ฉะนั้นประสิทธิภาพอาจจะสู้เคร่ืองใหม่เอี่ยมเกลี้ยงๆไม่ได้ แต่เป็นมาตรฐานเอาไว้ดูครับ เพราะมันคลาดเคลื่อนนิดเดียวเท่านั้น*
อันนี้ในส่วนของรายละเอียดเครื่องที่เทสต์นะครับ เป็น i9300 แล้วอัพเดทเป็นตัวล่าสุดของเมืองไทยแล้ว
AnTuTu
AnTuTu จะเป็นเครื่องมือสำหรับวัดผลโดยรวมทั้งหมดของเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น CPU, RAM, Graphic แล้วจะแสดงผลเป็นหลอดรวมโดยแยกเป็นสีๆ ถือว่าเป็น Benchmark Tools ที่ได้รับความนิยมที่สุดเนื่องจากจะมีผลเฉลี่ยของเครื่องรุ่นอื่นๆให้เราเทียบอีกด้วย
ผลของ AnTuTu ถือว่าน่าประทับใจ (แหงล่ะ) เพราะแรงที่สุดเท่าที่มีในตลาดตอนนี้แล้ว เฉือนชนะ HTC One X ที่เป็นคู่แข่งด้วย แม้ว่าความเร็ว Clock จะน้อยกว่า (One X อยู่ที่ 1.5GHz S3 อยู่ที่ 1.4GHz) สังเกตุได้ว่าจะแรงจากตระกูล Galaxy ที่ใช้สองแกน เช่น S2, Note และ Nexus ราวๆ 2 เท่า
Quadrant Standard
Quadrant ก็เป็นเครื่องมือประเภททดสอบครอบจักรวาลเหมือน AnTuTu โดยได้รับความนิยมเหมือนกัน (แต่ผมชอบ AnTuTu มากกว่านะทดสอบเยอะกว่า Quadrant มันทดสอบเร็วกว่า) แต่ผลลัพธ์จะแสดงตัวเลขไม่เหมือนกับ AnTuTu นะครับ แต่ด้วยความอยากรู้และให้เพื่อนๆผู้อ่านรู้ ก็เลยทดสอบมันซะทั้งสองตัวเลย
ผลของ Quadrant ก็คล้ายๆ AnTuTu คือ เครื่อง S3 ของเรายังแรงที่สุด และแน่นอนว่าแรงกว่า HTC One X เช่นเคยครับ
Neocore
ต่อไปเป็นการทดสอบด้านกราฟฟิคเพียวๆบ้าง โดยใช้ Neocore ตัวสามัญที่ใช้กันมาเนิ่นนานๆ แต่ผมอยากจะบอกว่าหลังๆมันไม่ค่อยมีประโยชน์แล้วเพราะมือถือแรงๆก็รันที่ 60fps กันหมดแล้ว คือมันติด VSync น่ะ (VSync คือการที่เครื่อง Lock Framerate ไว้เท่าที่หน้าจอเราสามารถแสดงผลได้ เพื่อไม่ให้เกิดอาการภาพขาด เพราะว่าการ์จดแรงกว่าความถี่หน้าจอ)
และแน่นอนว่า Galaxy S3 ของผมก็ทำได้ที่ 59.9 fps เห็นว่ามัน Lock ไว้ที่เท่านี้แหละ ถ้าเครื่องเดิมๆนะ
GLBenchmark
GLBenchmark จะทดสอบได้เยอะและละเอียดกว่า Neocore มาก โดยผมเพิ่งเห็นว่าล่าสุดมีแบบ Egypt ให้ทดสอบแล้ว (ไม่ได้ใช้นานมาก) ก็เลยรองรันแบบทั้ง Standard และ High ให้ดูกัน ผลปรากฎก็คือมีขึ้นเตือน Vsync แทบตลอดเวลา และทำ FPS ได้ที่เกือบๆ 60 fps ฉะนั้นผ่านฉลุยในการเล่นเกมส์ทั่วๆไปครับ
ด้วยความอยากรู้เลยลองแบบ Off Screen บ้าง ก็คือไม่ให้รันออกหน้าจอเพื่อให้โชว์ประสิทธิภาพการ์ดจอเต็มที่โดยไม่ต้องห่วงความถี่หน้าจอ ผลก็เป็นดังนี้ครับ
แรงบร๊ะเจ้าจริงๆ…
NenaMark2
ตัวนี้ก็รัน Graphic เหมือนกันครับ ซึ่งเป็นสามมิติเต็มๆพอสมควรและใช้ทรัพยากรมากกว่า Neocore ผลก็อย่างที่เห็นด้านล่างครับ ที่ผลเท่านี้ก็เหตุผลเดิมครับติด VSync น่อ
ก็จบกันไปกับการทดสอบประสิทธิภาพนะครับ จากผลทั้งหมด บอกได้เลยว่า Galaxy S3 เป็นมือถือที่แรงที่สุดตอนนี้ (24 กรกฎาคม 2012) ได้อย่างไม่ผิดแต่อย่างใด คงต้องรออีกสักพักกว่าจะมีคู่แข่งที่เหนือกว่าออกมาปราบมันเองครับ ขอทิ้งท้ายด้วยสเปคของเจ้า Galaxy S3 ละกัน
Specification
Galaxy S3
มีชื่อเรียกอื่นๆ : Samsung Galaxy SIII (i9300)
ทั่วไป
- รองรับคลื่นความถี่ 2G GSM ที่ 850 / 900 / 1800 / 1900
- รองรับคลื่นความถี่ 3G HSDPA ที่ 850 / 900 / 1900 / 2100 (i9100T ใช้ดีกว่าใน 850, i9100 ใช้ดีกว่าใน 900)
- เปิดตัว : พฤษภาคม 2012
- สถานะปัจจุบัน : วางขายอยู่ เริ่มขาย พฤษภาคม 2012 (ในไทย มิถุนายน 2012)
ตัวเครื่อง
- ขนาด : 136.6 x 70.6 x 8.6 มิลลิมเมตร (ยาว x กว้าง x สูง)
- น้ำหนัก : 133 กรัม
หน้าจอ
- ประเภท : หน้าจอ Super AMOLED สัมผัสแบบ Capacitive, 16 ล้านสี
- ขนาด : 720 x 1280 pixels, 4.8 นิ้ว (ความหนาแน่น Pixel ที่ 306 Pixel ต่อตารางนิ้ว)
- รองรับ Multitouch
- ใช้ Gorilla Glass 2 จาก Corning
- ใช้ TouchWiz Nature UX
เสียง
- ลักษณะการเตือน : สั่น, รองรับ Ringtone MP3 และ WAV
- มีลำโพง และรูเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
หน่วยความจำ
- รองรับ MicroSD สูงถึง 64GB
- หน่วยความจำภายใน 16GB (รุ่นที่ขายในประเทศไทย) 32GB ในบางประเทศ / 64GB (อาจถูกยกเลิก)
- RAM 1 GB
Data
- รองรับ GPRS, EDGE
- ความเร็ว 3G ที่รองรับ : HSDPA, 21 Mbps; HSUPA, 5.76 Mbps
- Wireless LAN : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, dual-band, รองรับ DLNA, รองรับ WiFi Direct, รองรับ WiFi Hotspot
- Bluetooth : v4.0 รองรับ A2DP, EDR
- รองรับ NFC
- รองรับการต่อUSB ที่ MicroUSB v.2.0 รองรับ MHL
กล้อง
- กล้องหลัก(กล้องหลัง) : 8 ล้าน Pixels (3264 x 2448 pixels), โฟกัสอัตโนมัติ, มี Flash LED
- คุณสมบัติของกล้อง : ถ่ายรูปขณะอัดวิดีโอได้, แตะเพื่อโฟกัส, Geo-Tagging, ตรวจจับใบหน้าและยิ้ม, เพิ่มความเสถียรรูปภาพ
- รองรับการถ่าย Video 1080p ที่ 30fps
- มีกล้องรอง(กล้องหน้า) : 1.9 ล้าน pixels สามารถถ่ายวิดีโอ 720p ที่ 30fps
Features
- OS : เปิดตัวด้วย Android OS, v4.0.4 (Ice Cream Sandwich)
- Chipset : Exynos 4412 Quad
- CPU : Quad-Core 1.4 GHz สถาปัตยกรรม Cortex-A9
- GPU : Mali-400MP
- Sensors : Accelerometer, Gyroscope, proximity sensor, เข็มทิศ, Barometer
- การส่งข้อความ : รองรับ SMS(แบบโต้ตอบ), MMS, E-mail, Push Mail, Instant Messaging(โปรแกรม Chat), RSS
- Browser : HTML, รองรับ Flash
- มีวิทยุ Stereo (ต้องต่อหูฟัง)
- รองรับ GPS โดยมี A-GPS ด้วย และ GLONASS
- รองรับ Java ผ่าน Java MIDP Emulator
- สี : น้ำเงิน (Pebble Blue) และ ขาว (Marble White)
อื่นๆ
- ใช้ Micro SIM
- S-Voice ระบบสั่งการผ่านเสียงแบบธรรมชาติ
- Smart Stay ระบบตรวจจับการมองจอ
- Dropbox 50GB
- ระบบตัดเสียงรบกวนโดยไมโครโฟนแยก
- ต่อออก TV (ผ่านทาง USB โดยใช้สาย MHL A/V)
- รองรับการเล่นวิดีโอไฟล์ MP4/H.264/H.263
- รองรับการเล่นไฟล์เสียง MP3/WAV/eAAC+/AC3
- มี App จัดการงาน (Organizer)
- มี App ตัดต่อภาพและหนัง
- สามารถดูเอกสารได้
- มี App Google Search, Maps, Gmail, Youtube, Calendar, Google Talk, รองรับการใช้งานร่วมกับ Picasa
- รองรับการบันทึก/โทร/สั่งงาน ด้วยเสียง
- สามารถคาดการณ์การพิมพ์ได้ (Swype)
Battery
- Battery มาตรฐาน Li-Ion ความจุ 2100 mAh
- เวลา Stand By : ได้ถึง 590 ชั่วโมงบน 2G, ได้ถึง 790 ชั่วโมงบน 3G
- เวลาสนทนา : 21 ชั่วโมง 40 นาทีบน2G, 11 ชั่วโมง 40 นาทีบน 3G
คำเตือน ข้อมูลข้างต้นอาจไม่ถูกต้อง 100% และทางเราขอไม่รับผิดชอบหากมีการเข้าใจผิดข้างต้น โปรดตรวจสอบข้อมูลกับทาง Samsung เสมอ
ก็จบกันไปสำหรับ Review ส่วนแรกนะครับของ Galaxy S3 ตอนหน้าจะพาไปเล่นในส่วนของการใช้งานทั่วๆไปและ Software นะครับอย่าลืมติดตามกันครับผม