สวัสดีครับ เพื่อนๆ มาพบกันอีกครั้งกับการ แนะนำแอพนะครับ เพื่อนๆ เคยไหมครับที่เราตั้งใจว่าจะไปวิ่งออกกำลังกาย แต่พอทำได้สักระยะก็รู้สึกเบื่อๆ รู้สึกไม่รู้ว่าที่เราทำๆอยู่ มันลดไปได้ขนาดไหน เราวิ่งไปขนาดไหน จนในที่สุดก็เลิกออกไปวิ่งนะครับ แต่ทุกอาการเหล่านั้นจะหมดไปด้วยแอพนี้เลยครับ “Nike +Running”
Name: Nike+Running
By: Nike, Inc.
Price: Free
ข้อดี: หน้าตาสวยงาม, ใช้งานได้กับรองเท้าปกติ ไม่ต้องไปถอยรองเท้าที่มี Nike + มานะ, ใช้ได้ทั้งการวิ่ง Indoor และ Outdoor
ข้อเสีย: เลือกเพลงเป็นเพลงๆไปไม่ได้, การใช้งานแรกๆจะงงนิดๆ แต่ใช้ไปสักพักจะคล่องขึ้น
มาออกวิ่งกันเถอะ !!!
เมื่อเราเริ่มใช้งานแอพนี้ ตอนแรกก็จะมีการให้สมัครเข้าเป็นสมาชิกของ Nike+ และใส่ประวัติต่างๆ เำพื่อที่เราจะสามารถ ซิ๊งค์ข้อมูลไปเก็บไว้กับทาง Nike ได้
ก่อนจะใช้ก็ต้อง Login กันก่อนนะ
ถ้ายังไม่เคยลงทะเบียนก็ มาSign up ก่อน ง่ายๆครับ
ซึ่งหลังจากที่เราสมัครเสร็จแล้ว แอพนี้ก็พร้อมจะลุยไปกับทุกการวิ่งของเราแล้ว โดยในตอนนี้ถ้าเรายังไม่เคยวิ่งกับแอพนี้มาก่อน หน้าจอจะเป็นแบบทางด้านซ้ายมือนะครับ แต่ถ้าเราเคยวิ่งแล้ว หน้าจอก็จะเป็นแบบทางขวามือครับ โดยจะมีแท่งการ์ฟ ขึ้นมาแสดงว่าการวิ่งครั้งล่าสุด และการวิ่งทั้งหมดของเราครับ
อันนี้จะเป็นหน้าตาตอนที่เรายังไม่เคยใช้แอพครับ
ส่วนอันนี้เป็นเมื่อเราเคยวิ่งแล้วนะครับ
โดยเมื่อเราพร้อมจะวิ่งแล้ว ก็กดตรงปุ่ม Run ได้เลย ตัวแอพจะขึ้นหน้าจอให้เราเซ็ทเกี่ยวกับการวิ่ง
หน้าจอเมื่อเข้าสู่ mode Run
โดยรายละเอียดนะครับ อย่างแรกเลย คือ เราสามารถเลือก ลักษณะการวิ่งได้ครับ โดยกดตรงคำว่า “Basic Run” ซึ่งจะมีให้เราเลือกการวิ่งอยู่ 3 แบบ คือ
ลักษณะการวิ่งทั้ง 3 แบบ
1. Basic Run: ก็คือวิ่งไปเรื่อยๆไม่มีข้อกำหนดเรื่องระยะทาง หรือเวลา
2. Distance Run: เป็นการวิ่งแบบกำหนดระยะทาง โดยจะมีการเตือนเมื่อถึงระยะทางที่กำหนด
3. Time run: เป็นการวิ่งแบบตั้งเวลาสิ้นสุด
ซึ่ง ถ้าเพื่อนๆเลือกที่จะวิ่งแบบ Distance Run หรือ Time Run แอพก็จะเปลี่ยนไป ตามรูปเลยครับ โดยเราสามารถเลือกระยะทาง หรือระยะเวลาที่ต้องการได้ โดยเลื่อนตัวสายวัดเอา
อันนี้ เป็น Basic Run
อันนี้ เป็น Distance Run
ส่วนอันนี้คือ Time Run ครับ
ทีนี้ ในแต่ละหน้าก็เราก็จะสามารถเลือกปรับเปลี่ยนการทำงานของแอพ ได้อีก 3 อย่าง โดย
อย่างแรกคือเราสามารถเลือกได้ว่าจะมีเปิดเพลงระหว่างวิ่งหรือไม่ ซึ่งถ้าเลือกเปิด ตัวแอพจะมี ฟังก์ชันพิเศษที่เรียกว่า power song คือแอพจะเปิดเพลงนี้เพื่อกระตุ้นการวิ่งของเราครับ
ตั้งค่าได้ว่าจะเปิด ปิดเพลง หรือจะมี Power Song หรือไม่
อย่างที่ สอง คือ เราสามารถเลือกได้ครับ ว่าเราวิ่งกลางแจ้ง หรือวิ่งบนลู่วิ่ง ซึ่งแบบที่วิ่งบนลู่วิ่ง เราจะต้องถือ หรือพกโทรศัพท์ไว้ติดตัวด้วยเพื่อที่จะสามารถวัดระยะที่เราวิ่งไปได้
จะวิ่งแบบไหนก็เลือกได้ทั้งนั้น
อย่างสุดท้าย คือ การ Get Cheer ครับ โดยจะเป็นการที่ตัวแอพจะโพสท์ข้อความลงเฟซบุ๊ค ว่าเรากำลังวิ่งอยู่ แล้วถ้ามีใครมาคอมเม้นท์ หรือ Like เราก็จะสามารถทราบได้
ให้เพื่อนๆให้กำลังใจเราได้กับ Get Cheer!!!
เอาละ เมื่อเราวิ่งเสร็จแล้ว ในหน้าแรกของเราก็จะมีขึ้นแท่ง แสดงว่าเราวิ่งไปวันนี้ เท่าไหร่ และเราวิ่งไปทั้งหมดเท่าไหร่ และมีการบอกว่าเราวิ่งได้เร็วขึ้น หรือช้าลงเมื่อเทียบกับคราวที่แล้วด้วย ตามรูปครับ
อันนี้เป็นเมื่อเราเคยวิ่งแล้วนะครับ
ต่อมาเรามาดูในส่วนของ Home กันต่อ ว่ามีอะไรบ้าง โดยในส่วนนี้เมื่อเรากดเข้าไปก็จะมีตัวเลือกให้เราเลือก 3 อย่าง ตามรูปครับ
เมื่อกด Home จะมีตัวเลือกให้เลือก 3 อย่าง
โดย ตัวเลือก Activity จะเป็นการดูรายละเอียดการวิ่งที่เราเคยวิ่งมา ซึ่งจะเลือกได้ว่าจะดู เป็นแบบ รายการ หรือจะดูเป็น กราฟแท่งว่าแต่ละครั้งวิ่งไปเท่าไหร่ และสุดท้ายจะดูเป็น ตัวบันทึกสถิติของเรา ว่าเราวิ่งได้มากสุดเท่าไหร่ วิ่งนานสุดที่เท่าไหร่ ครับ
อันนี้จะเป็นการแสดงการวิ่ง เป็นรายการ
ดูเป็นกราฟ ก็ง่ายดีนะครับ (ว่าแต่แท่งสองมันสั้นไปนะ =_=)
เป็นตัวสถิติที่ดีที่สุดครับ ยิ่งดูก็ยิ่งอยากล้มมัน ฮึบๆ
ตัวเลือกต่อมา ก็คือตัว Challenge Me ซึ่งจะแสดงข้อมูลเหมือนๆ กับในส่วน Records ของ Activity คือ แสดงตัวเลขสถิติที่ดีที่สุดของเราเอาไว้ แต่จะมีการแยกเป็นสถิติความอด กับความเร็ว เพื่อให้เรารู้สึกอย่างจะทำลายสถิติลงให้ได้ครับ
หน้านี้ จะแสดงสถิติ เพื่อท้าทายเราครับ
จากเท่าที่ใช้แอพฯ นี้นะครับ รู้สึกว่าสนุกกับการวิ่งขึ้นเยอะครับ ทั้งการที่เรารู้ระยะทางที่เราวิ่งไป (เพราะแอพฯจะระบุจาก GPS ให้โดยอัตโนมัติ) รู้ทั่งความเร็ว ทั้งปริมาณพลังงานที่เราใช้ไป และมีบันทึกสถิติให้ทำลายอีกต่างหาก
แต่ที่สำคัญที่สุด ผมว่าเขาออกแบบมาดีที่เชื่อมต่อกับ facebook ทำให้แม้จะวิ่งคนเดียว เราก็จะเหมือนมีเพื่อนคอยเชียร์เราอยู่ข้างๆในทุกๆการวิ่งครับ
ว่าแล้ว ก็ขอตัวออกไปวิ่งก่อนนะครับ 
