คาดว่าหลายๆคนคงจะคุ้นเคยชื่อของ Samsung Galaxy Note กันดี เนื่องจากในประเทศไทยนั้นมีคนซื้อไปใช้กันเยอะมาก ด้วยความที่ตัวเครื่องนั้นมีจอขนาดใหญ่ถึง 5 นิ้วกว่าๆ ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ต้องการใช้ทั้ง Smartphone และ Tablet ในเครื่องเดียวกันมากๆ อีกทั้ง Galaxy Note เองก็มี S-Pen ปากกาอัจฉริยะที่ทำให้การใช้งานเกี่ยวกับการจดบันทึกนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยจินตนาการและฟังชั่นอันหลากหลาย วันนี้ Samsung จึงได้เปิดตัวต่อยอดของ Galaxy Note นั่นก็คือ Galaxy Note II นั่นเองครับ
ต้องบอกว่า Samsung Galaxy Note II นั้นมีฟังชั่นที่เพิ่มเข้ามาเยอะมาก ทั้งฟังชั่นที่เพิ่มเข้ามาจาก Galaxy S3 และฟังชั่นใหม่ๆของ Note II เอง แต่ละอย่างต้องบอกทำให้ผมรู้สึกว้าวกับ Note II จริงๆครับ ส่วนฟังชั่นนั้นมีอะไรบ้าง ประสิทธิภาพเป็นอย่างไร หน้าตาของมันโดยละเอียดเป็นอย่างไร ลองมาชม รีวิว Samsung Galaxy Note II ตัวนี้กันได้เลยครับ
เริ่มจากตัวเครื่องกันเลย
ด้านหน้าของตัวเครื่องนั้นมีส่วนโค้งมนคล้าย Galaxy S3 อย่างเห็นได้ชัดครับ
ด้านบนนั้นจะมีส่วนของเซ็นเซอร์วัดแสง กล้องหน้าและ LED Notification ที่ผมชอบมากๆก็คือตัวของ LED นี่ล่ะครับ หลายๆรุ่นไม่ค่อยทำออกมาสักเท่าไหร่ ( Note ตัวเก่าก็ไม่มี ) Note II จึงตอบโจทย์การใช้งานส่วน Notification สำหรับผมได้ดีมากๆเลยทีเดียว
ด้านล่างนั้นจะเป็น 3 ปุ่มเทพสไตล์ Samsung ประกอบไปด้วยปุ่ม Menu, Home และ Back ซึ่งปุ่ม Home นั้นจะเป็นแบบกด ส่วน Menu และ Back จะเป็นปุ่มแบบสัมผัสครับ
ด้านหลังนั้นยังคงคล้ายกับ S3 เหมือนเดิม
ด้านหลังส่วนบนจะมีกล้อง 8 ล้านพร้อมไฟเฟลช
ด้านล่างจะมีช่องของลำโพงละ ช่องสำหรับเสียบปากกา S-Pen
ขอบด้านซ้ายจะมีเฉพาะปุ่ม Volume Up/Down
ด้านขวาเป็นปุ่ม Power On/Off
ด้านบนก็จะมีเพียงช่องสำหรับใส่หูฟังและไมค์อีกตัวหนึ่ง ( น่าจะเป็นไมค์สำหรับตัดเสียง )
ด้านล่างเป็นช่องเสียบสาย micro USB เพื่อชาร์ตไฟและเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ นอกจากนั้นยังเห็น S-Pen เสียบอยู่อีกด้วย
เมื่อเปิดฝาหลังออกจะพบช่องเสียบ micro SD card และ micro SIM ( เป็น micro SIM ไปซะแล้ว Note II )
แบตเตอร์รี่ขนาด 3100 mAh เพิ่มมากจากตัวกว่า 600 mAh
ขนาดเมื่อเทียบกันระหว่าง Note และ Note II ถ้าสังเกตดูจะพบว่า Note II ยาวกว่าเล็กน้อย แต่ด้านข้างจะบีบเข้ามาอีกนิดหน่อยทำให้จับถนัดมือมากขึ้น
เปรียบเทียบความหนาของ Note และ Note II จะเห็นว่า Note II นั้นจะบางกว่าเล็กน้อยเนื่องจาก จอกับขอบนั้นจะสนิทกันไปเลย ต่างกับ Note ที่จอจะลอยขึ่้นมาเล็กน้อยครับ
สเปคของ Samsung Galaxy Note II
- มาพร้อมแอนดรอยเวอร์ชั่น 4.1
- รองรับ 3G ทุกบ่านความถี่ 850/900/1900/2100 (ไม่มีการแยกรุ่น)
- หน้าจอมีขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 1280×720 pixels HD Super AMOLED display
- มีความบางอยู่ที่ 9.4 mm
- มาพร้อมความเร็วซีพียู 1.6GHz quad-core processor
- หน่วยความจำในเครื่อง RAM 2 GB , ROM 16 GB
- กล้องความละเอียด 8 ล้าน , กล้องหน้าความละเอียด 1.9 ล้าน
- แบตเตอรี่ขนาด 3100 mAh
- Wi-Fi, Bluetooth, GPS, HSPA+ 21Mbps
พื้นที่เก็บข้อมูล
Galaxy Note II นั้นมีเมมโมรี่ในตัวมากถึง 16G ซึ่งใน 16GB นี้จะถูกแบ่งให้ไปประมาณ 4GB และมีเหลือให้ใช้อยู่ราวๆ 11GB ครับ เรื่องของการลงแอพฯคงไม่ต้องห่วงเลย เพราะ Note II นั้นเกิดมาก็เป็น 4.1 ทันที ทำให้พื้นที่ลงแอพฯนั้นถูกรวมเข้ากับพื้นที่ที่เก็บข้อมูลต่างๆด้วย พูดง่ายๆก็คือสามารถใช้พื้นที่ 10GB ลงแอพฯได้ทั้ง 10GB เลยทีเดียว ต่างกับ Note ที่เป็น 2.3 มาก่อน ซึ่งบน 2.3 นั้นจะแบ่ง partition ไว้ลงแอพฯอย่างชัดเจนไว้ที่ 2GB ถึงจะอัพ 4.0 ไปตอนที่อัพก็ไม่ได้แบ่ง Partition ใหม่ ทำให้ยังไงก็ลงได้แค่ 2GB
เพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูล
โดยส่วนใหญ่แล้ว โทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลด้วย micro SD ได้อยู่แล้ว Note II เองก็สามารถเพิ่มได้ และสามารถเพิ่มได้ถึง 64GB เลยทีเดียว ในขณะที่หลายๆรุ่นใส่ได้สูงสุดแค่ 32GB เท่านั้น
ประสิทธิภาพ
หลังจากดูสเปคแล้วก็น่าจะพอเดากันได้ว่า Galaxy Note II นั้นมีประสิทธิภาพสูงแค่ไหน เนื่องจาก Note II ใช้ CPU Quad-Core 1.6GHz, GPU Mali-400MP และ RAM 2G ซึ่งเป็นสเปคที่สูงมากๆสำหรับโทรศัพท์ในปัจจุบันครับ นอกจากนั้นยังมาพร้อมระบบปฎิบัติการ Android 4.1 Jelly Bean อีกด้วย เรื่องความลื่นและการใช้งานต่างๆนี่ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ ลื่นแบบน่าตกใจดีจริงๆครับ แต่แค่บอกว่าลื่นอย่างเดียวไม่มีหลักฐานก็ยังไงอยู่ ถ้างั้นลองมาดูผลการ Benchmark จาก Quadrant และ AnTuTu กันดูดีกว่าครับ
สำหรับ Quadrant นั้นทำคะแนนไปได้สูงเกือบ 6000 เลยทีเดียว เรียกว่ากินพวกทีใช้ CPU Tegra 3 หลายๆตัวไปเยอะเลยทีเดียวครับ
AnTuTu Benchmark นี่เห็นได้ชัดเจนเลยครับว่าคะแนนสูงว่า Galaxy S3 สูงกว่า Note ตัวเก่าเกือบ 1 เท่าเลยทีเดียว (ใครใช้ Note ตัวแรกอยู่อยากขายขึ้นมาเลย)
แค่ประสิทธิภาพอย่างเดียวก็ทำให้อยากได้กันแล้วสินะครับ เจ้า Samsung Galaxy Note II เนี่ย แต่บอกไว้ก่อนว่ามันมีอะไรที่เจ๋งกว่านี้อีกเยอะครับ ส่วนจะมีอะไรบ้างลองมาดูในหัวข้อถัดไปเลย
ฟีเจอร์ต่างๆของ Galaxy Note II
บอกตามตรงว่าฟีเจอร์มันมีเยอะมาก คืออะไรที่ S3 ทำได้ Note II ทำได้หมดครับ แล้วยังมีฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาสำหรับ Note II โดยเฉพาะอีก ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นลองมาชมกันดูครับ
Popup Browser
ต้องบอกว่า Popup Browser นี่เป็นสิ่งที่ผมได้ลองแรกๆแล้วรู้สึกติดใจมากเลยทีเดียวครับ ตัวของ Popup Browser นั้นจะคล้ายๆกับ Browser ตัวเล็กๆที่เด้งขึ้นมาบนหน้า โดยทีมันจะลอยอยู่บนหน้าแอพฯนั้นๆเลย สมมุติว่าผมกำลังอ่านข่าวอยู่ในแอพฯ Flipboard แล้วกดลิ้งค์
ก็จะมี Popup Browser ขึ้นมาให้เลือก
หลังจากนั้นตัว Popup Browser ก็จะแสดงลิ้งค์ที่เรากดขึ้นมาให้เลย โดยที่หน้าจอด้านหลังก็ยังใช้งานได้อยู่นะครับทำให้เราใช้จอใหญ่ๆของ Galaxy Note II ได้อย่างเต็มที่เลยล่ะครับ
S-Pen บน Galaxy Note II
S-Pen นั้นถือว่าเป็นจุดเด่นใน Note Series เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นส่วนช่วยให้เราสามารถจด วาดและจิ้มจุดต่างๆได้อย่างง่ายดายและแม่นยำ นอกจากนั้น Note II ยังมีทีเด็ดที่เพิ่มขึ้นมาจาก Note 10.1 กับ Note ตัวแรกอีก นั่นก็คือ เราสามารถใช้ปากกาสั่งงานบางอย่างได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องแตะโดนจอครับ ยกตัวอย่างเช่น
ใช้ดูภาพตัวอย่างในแต่ละ Album ในแอพฯ Gallery
ใช้ดูว่าไอคอนตัวนั้นๆคือไอคอนอะไร (ใช้ได้เฉพาะแอพฯของ Samsung)
ใช้ดู Preview Timeline ในคลิปวีดีโอ
ใช้เลื่อนขึ้นลงแบบช้าๆใน Browser หรือแอพฯตัวอื่นๆ
นอกจากนั้นเมื่อเราดึึงปากกาออกตัวเครื่องจะรับรู้ทันทีว่าเราดึงปากกาออก แล้วเข้าสู่เมนูพร้อมใช้งานปากกาทันทีครับ
และสำหรับผู้ที่กลัวจะทำปากกาหาย ลืมปากกา S-Pen สุดรักทิ้งไว้ เจ้าตัวเครื่องมันจะเตือนเราด้วยว่าตอนนี้ปากกาไม่ได้เสียบอยู่ที่เครื่อง เมื่อเราเดินไปประมาณสัก 10 ก้าวจากจุดที่เราไม่ได้ใส่ปากกาเอาไว้ ( ทราบจากทาง Samsung มาว่ามันจับจากการสั่นสะเทือนของตัวเครื่องเวลาเราเดิน)
Quick Commander
Note 2 นั้นยังสามารถใช้ Quick Commander ได้อีก ซึ่งเจ้า Quick Commander นั้นคือทางลัดในการเข้าใช้งานแอพฯต่างๆ เช่นส่งอีเมล์ โทรหาบุคคลที่ต้องการ และเปิดแอพฯที่เราต้องค่าไว้ โดยการใช้ปากกาวาดเป็นรูปที่เราต้องค่าไว้ในส่วนของ Quick Commander ครับ ส่วนวิธีการเรียกหน้านี้ขึ้นมาก็ง่ายมาก แค่เรากดปุ่มที่ปากกา S-Pen แล้วปัดจากล่างขึ้นบน ก็จะขึ้นหน้า Quick Commander มาให้เราวาดรูปเพื่อสั่งงานแล้ว
จากในภาพผมวาดรูปตัวอักษร G เพื่อใช้ในการเปิด GMail ครับ เมื่อเราเรียก Quick Commander ขึ้นมาแล้ววาดอักษรนี้ลงไป มันก็จะเด้งเข้า GMail ให้เราเช็คอีเมลแบบง่ายๆได้ทันทีเลย
ขนาดของ S-Pen
S-Pen ของ Galaxy Note II นั้นจะยาวกว่า Note ตัวแรกเล็กน้อยครับ จากในภาพนั้น S-Pen Note II จะอยู่ด้านซ้าย Note จะอยู่ด้านขวาครับ
Capture Screen
การ Capture Screen ถ้าใครใช้ Note ตัวแรกมาน่าจะทราบว่า การ Capture Screen และ Edit เพื่อตัวส่วนที่ไม่ต้องการทันทีบน Galaxy Note นั้นมันง่ายขนาดไหน แต่ Note II นั้นต้องบอกว่ามันง่ายยิ่งกว่าเดิมอีกครับ ของเดิมนั้นเราต้อง Capture ก่อนแล้วค่อยไป Crop รูปในส่วนที่ต้องการเอาเอง แต่บน Note 2 นั้น เมื่อเราอยู่ในหน้าจอที่ต้องการ Capture Screen แล้ว เพียงแค่เรากดปุ่มที่ S-Pen แล้วลากเฉพาะส่วนที่เราต้องการบนจอ แค่นี้ก็สามารถ Capture ในส่วนที่ต้องการได้ง่ายๆแล้วครับ
นอกจากนั้นเมื่อทำการ Capture เสร็จแล้ว ตัวเครื่องจะเปิดหน้า Preview รูปที่เรา Capture เสร็จแล้วให้เราดูด้วย ซึ่งในหน้านี้เราสามารถส่งรูปที่เราทำการ Capture ไว้ไปที่แอพฯนั้นๆได้เลย ในภาพนั้นหลังจากผม Capture เสร็จก็เลือกไปที่ S-Note ครับ เพียงเท่านี้ภาพนั้นก็จะเข้ามาอยู่ใน S-Note ให้เราจดๆและขีดๆเขียนได้
Home screen mode
- Basic Mode
ในส่วนของ Basic Mode นั้นหน้าจอจะมีการเรียงไอคอนที่ใช้งานเป็นประจำไว้ให้เรียบร้อย มีการใช้งานฟังชั่นต่างๆอย่างครบถ้วน
- Easy Mode
ส่วนของ Easy Mode นั้นจะเหมาะกับผู้ที่เริ่มใช้งาน Note และชอบไอคอนใหญ่ๆครับ เพราะหน้าจอจะจัดแอพฯที่ใช้งานหลักๆมาวางไว้ให้บนหน้าจอเลย
Idea Sketch
นี่เป็นฟีเจอร์ใน S-Note สำหรับคนที่วาดภาพไม่ค่อยเก่งเลยล่ะครับ เพราะเราสามารถใส่คำศัพท์ที่ต้องการลงไปแล้วเลือกภาพจากแคตตาล้อคที่ S-Note นั้นมีให้ได้เลย ยกตัวอย่างเช่นผมวาดคำว่า Baby ลงไป
ก็จะมีภาพเด็กหลายๆแบบขึ้นมาให้เราเลือกทันที
One Hand Operation
เนื่องจากหน้าจอของ Galaxy Note II นั้นใหญ่มากๆ ทำให้บางครั้งเวลาเราใช้มือเดียวในการสั่งงานตัวเครื่อง บางทีนิ้วมันไปไม่ถึงขอบอีกฝั่งนึง Samsung เค้าเลยทำตัวควบคุมแบบมือเดียวมาให้ ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้ง Keyboard, Keypad เครื่องคิดเลข และอื่นๆอีกหลายแอพฯเลยล่ะครับ
Smart Stay และ Smart Rotate
สำหรับ Smart Stay นั้นเราคงได้ยินกันมาครั้งนึงแล้วกับ Galaxy S3 ซึ่งเป็นฟังชั่นที่ตัวเครื่องจะไม่ดับจอหากเรากำลังมองตัวเครื่องอยู่ ส่วน Smart Rotate นั้น จะใช้วิธีการจับหน้าของเราว่าตอนนี้หันอยู่ในท่าไหนถ้าหากหน้าตั้งตรงกับตัวเครื่อง ตัวเครื่องก็จะไม่พิลกหน้าจอ ยกตัวอย่างเช่นเวลาเรานอนตะแคงเล่นมือถือแล้ว มันพลิกหน้าจอล่ะครับ แต่ถ้าเปิดโหมดนี้ไว้มันจะจับหน้าเราและไม่พลิกหน้าจอไปตามครับ เรียกว่าเป็นหนึ่งในฟังชั่นที่ผมชอบมากๆจาก Samsung เลยทีเดียวล่ะครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Galaxy Note II
เท่าที่ทดสอบกล้องของ Note II นั้น พบว่าคุณภาพของภาพที่ถ่ายออกมาได้นั้นดีมากเลย ทั้งแสงและสีต่างๆถ่ายออกมาได้สวยดีมากครับ ส่วนจะดูดีหรือไม่อย่างไรลองดูตัวอย่างภาพถ่ายด้านล่างนี้ดูครับ
สรุปเกี่ยวกับ Note II
Note II สำหรับผมนั้นเป็นโทรศัพท์และสมุดจดที่สุดยอดมากๆครับ เนื่องจากสเปคที่สูงมากและระบบปฎิบัติการเวอร์ชั่นใหม่อย่าง Android 4.1 Jelly Bean ทำให้ Note II ทำอะไรก็ดูลื่นไหลและรวดเร็วไปซะหมด นอกจากนั้นทาง Samasung เองก็ใ่ส่ลูกเล่นต่างๆมาให้ Note II เป็นจำนวนมาก ซึ่งผมเองก็รู้สึกว่ามันมีประโยชน์มากเลยทีเดียวสำหรับฟังชั่นที่ Samsung จัดมาให้ เพราะฉะนั้นสำหรับคนที่รักโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์แล้วอยากได้หน้าจอใหญ่ๆ Note II คือหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่สุดครับและรับรองว่าจะต้องประทับใจเหมือนผมแน่นอน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น