25/6/55

รีวิว : Galaxy Beam โทรศัพท์โปรเจ็กเตอร์



สเปคเครื่องคร่าวๆนะครับ 
#- ราคาเปิดตัว  16500 บาท
#- GSM 850/900/1800/1900 MHz
#- หน่วยประมวลผล Dual Core 1 GHz
#- ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 2.3 Gingerbread
#- กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 1.3 ล้านพิกเซล(รองรับ VDO Call) และกล้องหลังบันทึกภาพเคลื่อนไหว HD ได้
#- แบตเตอรี่ 2000 mAh
#- จอแสดงผล Super AMOLED 16 ล้านสี ระบบสัมผัส Multi-Touch จอกว้าง 4 นิ้ว
#- หน่วยความจำ 8 GB (ตัวเครื่อง) รองรับ microSD สูงสุด 32 GB


เอามาดูกันเลย กล่องของ Galaxy Beam ครับ

เปิดกล่องมาก็จะเจอกับเจ้า Beam นอนอยู่ จอกว้างใช้ได้เลยครับ

อุปกรณ์ในกล่องทั้งหมดนะครับ ก็จะมีหัวชาร์จUSB + สาย Data link + แท่นชาร์จแบต + แบต(พร้อมแบตสำรองอีก 1 ก้อน) + Smalltalk + คู่มือการใช้งาน

แบตให้มาเต็มที่กันเลยทีเดียว เพราะใช้งานโปรเจ็กเตอร์นี้นะ ให้มาถึง 2000 mAh เลยละครับ จากการทดสอบก็ถือว่าสอบผ่านนะ

แท่นชาร์จแบตสำรอง+พร้อมเป็นแท่นตั้งเครื่องสำหรับฉายภาพไปในตัวด้วย

ด้านขวาของเครื่องนะครับ ปุ่มขวาบนสุดจะเป็นปุ่มสำหรับ ปิด/เปิด การใช้งานโปรเจ็กเตอร์ รองลงมาเป็นปุ่ม ปิด/เปิด เครื่อง ส่วนตรงกลางนั้นเป็นช่องไว้ใส่ในส่วนของ micro SD Card ครับ

ด้านซ้ายมีช่อง mic 3.5mm นะครับ ถัดลงมาเป็นปุ่ม เพิ่ม/ลด เีสียง ถัดลงมาอีกเป็นช่องสำหรับใส่ Sim Card นะครับ

ด้านล่างมีรูไมค์เล็กๆ(น่าจะใช่นะ) และรู Mini usb ไว้ชาร์จแบตกับเสียบสาย data link เข้าคอมครับ

ด้านบนพระเอกของเรา จอฉายโปรเจ๊กเตอร์ครับ !! ขนาดก็ไม่ถือว่าเล็กเวอร์นะ

ด้านหลังเป็นฝาหลังสีดำ Logo ซัมซุงมาด้วยกล้อง 5 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช ส่วนมุมๆขวาล่างนั้นเป็นลำโพงของเครื่องครับ ดังพอได้เลย
ตัวฝาหลังจะเป็นลายๆ(เค้าเรียกว่าไงอะ - -*) จับแล้วรู้สึกหนืดๆมือครับ ทำให้ไม่หลุดมือง่าย

แกะฝาหลังออกจะมีแต่ช่องสำหรับใส่แบตอย่างเดียวเลย

จากรูปนี้บอกได้ว่า เราสามารถใส่หรือเปลี่ยน Sim Card กับ micro SD Card ได้โดยที่ไม่ต้องแกะฝาหลังเลยละครับ


ทดสอบการฉายโปรเจ๊กเตอร์แบบง่ายๆกันสักนิด


ดูภายนอกกันหมดแล้วทีนี้มาดูกันต่อครับว่าเปิดเครื่องมาแล้วเราจะเจอกับอะไรที่แปลกใหม่ไปจากเดิมบ้าง Galaxy Beam มาพร้อมกับ Android เวอร์ชั่น 2.3.6 มีฟั้งชั่นการใช้งานโปรเจ๊กเตอร์ให้เลยครับในหน้าแรกที่เราเปิดเครื่องมา

ทดสอบการเปิดใช้งานโปรเจ็กเตอร์นะครับ วิธีเปิดทำได้สองแบบคือกดที่ icon หน้าแรกหรือว่า กดที่ปุ่มเปิดโปรเจ๊กเตอร์ข้างขวาของเครื่องค้างไว้สักนิด ก็จะเปิดขึ้นมาครับ
 

หัวข้อแรก "โฟกัสและการหมุน"

หัวข้อต่อมาการใช้งาน "ควิกแพด" ในส่วนนี้เมื่อกดมาแล้วจะมีตัวเลือกโผ่ลขึ้นมาด้านบนนะครับ ให้เลือกแบบเคอเซอร์เม้าส์สำหรับชี้ หรือว่าจะเป็นแบบปากกาเขียนทับลงไปเลยสามารถปรับขนาดของเส้นที่เขียนได้ แล้วก็มียางลบกับเมนูที่ไว้สำหรับ Undo ในกรณีที่เราทำอะไรผิดพลาดขึ้นมาด้วย

หัวข้อแสงไฟนี้จะเป็นเหมือนกับการใช้ไฟฉายนั้นเอง สามารถเลือกสีและระดับของแสงได้ด้วย

การตั้งค่าโปรเจ็กเตอร์ - เราสามารถปรับแสงสว่างของการฉายโปรเจ็กเตอร์ได้ ตั้งการหมดเวลาของหน้าจอได้ และก็ตั้งค่าทิศทางหน้าจอ หรือแนวการฉายได้นั้นเอง ว่าจะให้หมุนอัตโนมัติตามเครื่อง หรือว่าแนวนอนเท่านั้นก็เลือกได้ครับ

หากถามว่าเราสามารถเปิดไฟล์ฺ office ได้ไหมอย่างเช่น Powerpoint...


ก็ต้องตอบได้เลยว่าเปิดได้จ้าาา แต่ตัว app ที่ติดเครื่องมาอาจจะไม่แจ่มเท่ากับที่ๆเราใช้กันอยุ่นะครับ เรื่องการพรีเซ้นไฟล์พวกนี้ กับ VDO clip ต่างๆนั้นได้แน่นอนครับ

-สรุปเกี่ยว Galaxy Beam-
จากการทดสอบใช้โปรเจ็กเตอร์นะครับภาพที่ออกมาสีสันคมชัด ดีมาก การปรับโฟกัสตามระยะไม่ยากเลย เสียตรงที่เราอยากได้ภาพขนาดเล็กหรือใหญ่ ต้องเดินเข้าหรือเดินออกเอาเอง แสงที่ออกมาไม่แรงมากพอที่จะใช้ในที่ๆมีแสงระดับนึงได้ คือพอเห็นได้แต่สีสันจะไม่เวิร์คเท่าไรครับ ต้องมืดๆเลยมีแสงอ่อนๆก็พอได้อยู่ เราสามารถวางกับแท่นหรือว่ากับโต๊ะเพื่อฉายได้เลยไม่จำเป็นต้องหาอะไรมารองตัวเครื่องเพื่อให้เงยขึ้นแบบเครื่องโปรเจ็กเตอร์ใหญ่ๆ จากข้อมูลที่ได้มาเค้าบอกว่าสามารถปรับได้มากสุดถึงขนาด 50 นิ้ว แต่ทดสอบจริงๆแล้วมันได้ใหญ่กว่านั้นมาก แต่ว่าภาพก็จะจางลงไป อาจจะ 50 นิ้วนี้เป็นขนาดที่ใหญ่และภาพโอเคสุดก็เป็นได้ แต่ภาพใหญ่ขนาดนั้นผมต้องถอยมาไกลโขเลยทีเดียว(ประมาณ 5 เมตร) ระยะที่ภาพใหญ่พอจะใช้งานได้อยู่ที่ประมาณความห่างของเครื่องกับผนังก็ราวๆ 2-3 เมตรขึ้นไปครับ แท่นตั้งไว้บนหัวเตียงแล้วเปิดหนังดู เรานอนดูหนังไปเรื่อยๆ.... มันเป็นอะไรที่แปลกตาดีครับ ส่วนเรื่องของเสียงนั้นก็นับว่าลำโพงเค้าจัดมาให้ดังกว่าตัวอื่นๆมากไหม ไม่ทันได้ทดสอบอะครับ แต่ที่ผมลองมันก็ดังมากละนะ 
แบตเตอรี่ที่ให้มาทนทานจุใจอยู่ครับ ผมเปิดทดสอบทิ้งไว้ คือเปิดโปรเจ็กเตอร์ทิ้งไว้ประมาณเกือบๆ 2 ชม. แบตลดลงไปจากที่ชาร์จมันจนเต็ม อยู่ที่ 73% แต่พอจับเครื่องหลังจากที่เปิดค้างไว้นั้นก็คือมันอุ่นๆมือมากเลยทีเดียวละครับ แต่นี้เป็นแบตที่ประจุชาร์จแรกๆ หากใช้ไปนานๆอาจจะไม่ทนเท่านี้ครับ เค้าถึงให้แบตสำรองกับแท่นชาร์จมาด้วยนั้นเอง(การทดสอบไม่เป็นมาตรฐานนะครับ)

เป็นไงกันมั้งละครับกับมือถือพร้อมโปรเจ็กเตอร์แบบนี้ ส่วนตัวคิดว่ามันเป็นการแหวกแนวที่ไม่เลวเลยทีเดียวละกับราคา 16500 บาทที่มาพร้อมฟังชั่นเจ๋งๆ ผมมองว่ามันเป็นศิลปะ ผมให้ผ่านครับ!!... เอ้ยไม่ใช่ละ ให้คะแนนเจ้าตัวนี้ 8/10 เลยคร้าบ เนื่องจากความร้อนของเครื่องที่เปิดติดต่อกันนานๆและแสงที่ฉายนั้นอาจจะไม่แรงพอในหลายๆสถาณที่นั้นเอง
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...